X

8.8 cm Flak ปืนใหญ่พิฆาตของเยอรมัน

เยอรมันชาติที่ขึ้นชื่อเรื่องความล้ำหน้าทางนวัตกรรม และ เทคโนโลยี ต่างๆในห้วงสงครามโลกทั้ง 2 ครั้ง ที่แม้เยอรมันจะพ่ายแพ้แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีต่างๆของเยอรมันนั้นถูกนำมาต่อยอดกลายเป็นอาวุธที่ชาติมหาอำนาจในเวลาต่อมาใช้ และ นอกจากรถถังของเยอรมันจะขึ้นชื่อในสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว เยอรมันยังมีอาวุธอีกหลากหลายชนิดที่สร้างความน่าสะพรึงกลัวให้ฝ่ายสัมพันธมิตร 1 ในนั้นคือ ปืนใหญ่ขนาด 8.8 เซนติเมตร หรือที่ถูกเรียกกันติดปากว่า ปืนใหญ่ 88 มิลลิเมตร ซึ่งได้รับการดัดแปลงและต่อยอดออกมาหลายรุ่นมากวันนี้เราจะมาพูดถึงปืนใหญ่ชนิดนี้กัน

 

ต้นกำเนิดของปืนขนาด 8.8 เซนติเมตรของเยอรมันนั้นย้อนกลับไปช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งในตอนแรกพวกเขาพยายามออกแบบปืนใหญ่สำหรับเรือ ซึ่งถูกออกแบบทั้งโดยบริษัท ครุปป์ (Krupp) และ ไรน์เมทัล (Rheinmetall) เวอร์ชันแรกของปืน 8.8 เซนติเมตรนั้นกระสุนของมันหนักมากจนคนๆเดียวแบกมันไม่ได้ และในเวลาต่อมาก็ได้มีการดัดแปลงมันมาใช้บนบกซึ่งใช้กระสุนขนาด 9.6 กิโลกรัม ระยะของมันนั้นราวๆ 10 กิโลเมตร เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของเยอรมัน เยอรมันถูกจำกัดขนาดกองทัพและการพัฒนาอาวุธด้วย สนธิสัญญาแวร์ซายส์ แต่บริษัทครุปป์และไรน์เมทัล นั้นปรับตัวทันโดยการให้ต่างชาติมาร่วมทุน และ พวกเขาก็ตั้งโรงงานที่ต่างประเทศ ทำให้มีการออกแบบและพัฒนาอาวุธต่อไปได้

 

ปืนใหญ่ขนาด 8.8 เซนติเมตรในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
ที่มา – https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/e/e1/88_Flak_16_3397921.jpg

 

ปืนใหญ่ 8.8 เซนติเมตรรุ่นใหม่นั้นได้เผยโฉมในช่วง ค.ศ.1933 อันเป็นช่วงที่ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ท่านผู้นำแห่งเยอรมันเรืองอำนาจพอดี โดยมันถูกออกแบบมาเป็น ปืนใหญ่ต่อต้านอากาศยาน (Flak) ปืนรุ่นนี้เลยถูกเรียกว่า 8.8 Flak รุ่น 18 ซึ่งถือเป็นรุ่นแรก ก่อนจะเริ่มตามมาด้วย รุ่น 36 และ 37 ซึ่งหลักการทำงานของมันคือการยิงมันขึ้นฟ้าโดยใช้กระสุนหัวระเบิดที่ตั้งชนวนเวลาไว้แล้วไประเบิดกลางอากาศสร้างความเสียหายให้อากาศยานข้าศึก อัตราการยิงของมันสูงมาก พลปืนที่ได้รับการฝึกอย่างดีสามารถยิงได้สูงสุด 20 นัดต่อนาที มันใช้พลปืน 6 – 10 คน และใช้เวลาในการติดตั้งพร้อมยิงแค่ 20 นาที  ฐานของปืนใหญ่ถูกออกแบบมาให้หมุนได้ 360 องศารอบตัว มุมกด ได้มาก -3 องศา ส่วนมุมเงยนั้น 85 องศา ส่วนความยาวปากลำกล้อง ความเร็วของกระสุน ขึ้นกับรุ่นของมันที่อัปเดตมาเรื่อยๆ

 

 

ปืนใหญ่ 8.8 เซนติเมตรบนฐานยิงรูปกากบาทซึ่งทำให้มันหมุนได้ 360 องศา

ที่มา – https://weaponsandwarfare.files.wordpress.com/2020/09/teyynett.jpg?w=1427

 

 

มันยิงหัวกระสุนระเบิดหนัก 17 ปอนด์ ได้กลางอากาศสูงถึง 1,500 เมตร อย่างที่บอกไปตอนแรกในห้วงแรกมันถูกออกแบบมาเป็น ปืนต่อต้านอากาศยานและเป็นอาวุธในการตั้งรับเสียมากกว่า มันถูกกระจายให้หน่วย อากาศโยธิน หรือ กำลังภาคพื้นของทัพอากาศ เพื่อปกป้องน่านฟ้าของเยอรมัน ปืน 8.8 เซนติเมตร ถูกขายให้กลุ่มประเทศนอร์ดิก และถูกนำไปใช้ในสงครามกลางเมืองสเปน ซึ่งทหารเยอรมันต่างชื่นชอบมันเพราะมันแม่นยำมาก ทั้งนี้ เริ่มมีแนวคิดแล้วว่าถ้ามันแม่นแล้วทำไมไม่ลองมันเอามายิงเป้าหมายภาคพื้นดูล่ะ!! ซึ่งหากเอาปืน 8.8 เซนติเมตร มายิงในระยะแนวราบแล้วมันยิงไกลได้มากถึง 14 – 16 กิโลเมตรทีเดียว!!  ทางเยอรมันเองเริ่มรับรู้และผลิตกระสุนออกมาหลายแบบสำหรับปืน 8.8 เซนติเมตร 1 ในนั้นคือ หัวกระสุนเจาะเกราะสำหรับยิงรถถัง

 

เริ่มมีการนำปืนใหญ่ขนาด 8.8 เซนติเมตรไปติดตามยานเกราะเพื่อให้มันมีความคล่องตัวมากขึ้น ทั้งนี้โดยปกติปืนใหญ่ 8.8 เซนติเมตรจะถูกกระจายไปตามหน่วยทหารปืนใหญ่ต่างๆเพื่อทำการคุ้มกันภัยทางอากาศ จนกระทั่ง ค.ศ.1940 เมื่อเยอรมันได้รุกรานฝรั่งเศส กองพลยานเกราะที่ 7 ของเยอรมัน ภายใต้การนำของ นายพล เออร์วิน รอมเมล ได้ปะทะกับ กองทัพอังกฤษ ที่เมือง อาร์รัส (Arras) ซึ่งอังกฤษก็มาพร้อมกับรถถัง มาทิลด้า (Matilda) ซึ่งเกราะหนากว่ารถถังเยอรมันมาก ปรากฏว่ารถถังเยอรมันและปืนต่อต้านรถถังเยอรมันในขณะนั้นยิงรถถังมาทิลด้า ไม่เข้าเลย!! ซึ่ง รอมเมล ก็เลยเอาปืน 8.8 เซนติเมตร มายิงใส่รถถังอังกฤษแทน ปรากฏว่ายิงเข้า!! นอกจากรอมเมลแล้ว ปืนใหญ่ 8.8 เซนติเมตรถูกนำมาใช้ เป็นปืนต่อต้านรถถังอย่างแพร่หลายโดยกองทัพเยอรมัน เมื่อพวกเขาต้องเจอกับรถถังอังกฤษและฝรั่งเศสที่เกราะหนามาก

 

 

ปืนใหญ่ 8.8 เซนติเมตร ขณะถูกลากเลื่อนไปตามถนน

ที่มา – https://www.worldwarphotos.info/wp-content/gallery/germany/artillery/flak-88/Flak_88_France_1940.jpg

 

ปืนใหญ่ขนาด 8.8 เซนติเมตรถูกใช้อย่างแพร่หลายในตลอดห้วงสงคราม โดยเฉพาะอย่างยิ่งรอมเมลที่ใช้มันอย่างคุ้มค่ามาก โดยเป็นการรบร่วมกันระหว่างรถถังและปืนใหญ่ ซึ่งเขามักใช้กลยุทธ์ให้รถถังของเยอรมันล่าถอยและเมื่อฝ่ายอังกฤษไล่ล่า ก็จะเข้าในระยะปืน 8.8 เซนติเมตร ในการยุทธที่ ฮัลฟาย่า พาส (Halfaya Pass) ค.ศ.1941 รถถังอังกฤษกว่า 190 คันได้เข้าโจมตีรอมเมล และก็โดนสวนด้วยปืนใหญ่ 8.8 เซนติเมตรจนพังไปเกือบ 100 คัน!! มันยังถูกใช้ในการรุกรานโซเวียตซึ่งก็สามารถจัดการกับรถถังของรัสเซียได้อยู่หมัด แต่การพัฒนาของมันยังไม่ได้หยุดอยู่ที่ปืนใหญ่!! เพราะในเวลาต่อมามันถูกนำไปติดตั้งบนรถถัง ซึ่งเยอรมันขนานนามมันว่า รถถัง ทีก้า 1 หรือ รถถังไทเกอร์ อันโด่งดังในช่วงสงครามโลก ซึ่งก็กลายเป็นรถถังที่สร้างความน่าสะพรึงกลัวอย่างมากแก่ฝ่ายพันธมิตร

 

ปืนใหญ่ 8.8 เซนติเมตรในแอฟริกาเหนือ
ที่มา – https://i.imgur.com/lH9cdZM.jpg

 

นอกจากเกราะหนาจนยากแก่การทำลายมันยังมีปืนที่ยิงแม่นราวกับจับวาง จนมีคนเคลมว่ามัน “One Shot One Kill” มันยังได้รับการดัดแปลงอีกหลายครั้งทั้งดัดแปลงให้ยาวและแม่นมากขึ้น หรือดัดแปลงเป็นปืนต่อต้านรถถังรุ่น Pak43 ซึ่งออกแบบมาเพื่อยิงรถถังโดยเฉพาะ ด้วยความสามารถทางวิศวกรรมของเยอรมันประกอบกับแนวคิดริเริ่มในการใช้อาวุธทำให้ปืนใหญ่ขนาด 8.8 เซนติเมตร เป็นอาวุธอเนกประสงค์ที่รับได้หลายบทบาท และเป็นตำนานอันน่าเกรงขามอีกหนึ่งเรื่องของกองทัพเยอรมันในห้วงสงครามโลกครั้งที่ 2

 

รถถังไทเกอร์ รถถังชื่อดังของเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ติดตั้งปืนขนาด 8.8 เซนติเมตร

ที่มา – https://i.pinimg.com/736x/34/41/36/3441369385b4f184d3ec0559dc15ca0c.jpg