X

ทหารอเมริกันต้องกล้าแค่ไหน ? ถึงจะได้เหรียญกล้าหาญชั้นสูงสุด

Medal Of Honor เป็นเหรียญกล้าหาญชั้นสูงสุด ที่มอบให้เพื่อยกย่องในความกล้าหาญ ของบุคคลที่กล้านำชีวิตเข้าเสี่ยงในขณะปฏิบัติหน้าที่ และยอมแม้กระทั่งสละชีวิตของตัวเอง เพื่อปกป้องชีวิตของผู้อื่น เป็นเหรียญที่มอบให้เฉพาะทหารจากกองทัพอเมริกาเท่านั้น

เหรียญแรกทางด้านซ้ายสุดเป็นเหรียญของ US Army ถัดมาเป็นของ US Navy, Marines, Coast Guard ขวาสุดเป็นของ US Air Force สำหรับจำนวนดาว 13 ดาวที่ปรากฏอยู่บนแถบริบบิ้นสีฟ้า หมายความถึง 13 อาณานิคมเดิมที่รวมตัวกันประกาศอิสรภาพและปลดแอกจากการปกครองระบบอาณานิคมของอังกฤษและก็ตั้งประเทศสหรัฐอเมริกาขึ้นมา

พอเริ่มค้น…เราก็ไปเจอกับ The Soldier’s Creed คำสาบาน ของทหารอเมริกัน

I will always place the mission first. ข้าพเจ้าจะถือภารกิจมาเป็นอันดับแรกเสมอ

I will never accept defeat. ข้าพเจ้าจะไม่มีวันยอมแพ้

I will never quit. ข้าพเจ้าจะไม่มีวันท้อถอย

I will never leave a fallen comrade. ข้าพเจ้าจะไม่มีวันทิ้งเพื่อนทหารที่บาดเจ็บ

ประโยคข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งของคำสาบาน ซึ่งในหมู่ทหารอเมริกันนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องปฏิบัติตาม และเมื่อนำมาประกอบกับเรื่องราวของทหารแต่ละนายที่ได้รับเหรียญกล้าหาญขั้นสูงสุด

ทำให้เราต้องทึ่งกับความกล้าหาญของพวกเขา

Leroy A. Petry  ยอมสละแขนข้างหนึ่ง เพื่อรักษาชีวิตของคนในทีม

จากภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้เข้าจับกุมแกนนำตาลีบีนในปี 2008 ทำให้เขาและเพื่อนร่วมทีมโดนการจู่โจมขากพวกตาลีบีนอย่างหนัก จากนั้นอีกฝ่ายก็ได้ขว้างระเบิดมือเข้ามา“ผมพบว่าระเบิดมือตกอยู่ใกล้ๆ ใกล้จนไม่คิดว่ามันจะระเบิดขึ้นมา ผมจึงหยิบมัน แล้วขว้างออกไปสุดแรงเกิด ทันทีทันใดระเบิดก็ทำงาน เมื่อสิ้นเสียงระเบิด ผมก็พบว่า มือและแขนของผมแทบไม่หลงเหลือสภาพเดิมอีกเลย”  Leroy A. Petry กล่าวถึงเสี้ยววินาทีในเหตุการณ์ครั้งนั้น

เขาสูญเสียแขนข้างขวาตั้งแต่ข้อศอก แต่การตัดสินใจในครั้งนั้น ทำให้เพื่อนร่วมทีมรอดพ้นจากความตาย และภารกิจครั้งนั้นก็ลุล่วงไปด้วยดี

Capt. Florent Groberg ฮีโร่ผู้เอาชีวิตเข้าขวางระเบิด เพื่อเซฟชีวิตคนอื่น

source : twt-media.washtimes.com

เหตุการณ์ที่ทำให้ Capt. Florent Groberg ได้รับเหรียญกล้าหาญชั้นสูงสุด Medal Of Honor คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอัฟกานิสถาน ระหว่างที่ทำการออกลาดตระเวนเขาได้สังเกตเห็นคนร้ายกำลังจะจุดชนวนเพื่อทำการระเบิดฆ่าตัวตาย เขาจึงตัดสินใจเข้าชาร์จและนำตัวคนร้ายออกไปให้ไกลจากกลุ่มคนและสมาชิกในทีมที่ทำการลาดตระเวนอยู่ตรงนั้นให้มากที่สุด

ในขณะที่เขาเข้าไปชาร์จตัวคนร้าย คนร้ายก็ได้จุดชนวนระเบิดขึ้น แรงระเบิดทำให้  Groberg กระเด็นไปไกลถึง 20 ฟุต ส่งผลให้เขาได้รับบาดเจ็บที่ขา แก้วหู และสมอง อาการเป็นตายเท่ากัน จนต้องพักรักษาตัวอยู่ถึง 2 ปีด้วยกัน

Salvatore Giunta ต้นแบบของคำว่า “สู้ตาย”

source: mil.com, Salvatore Giunta ในพิธีรับเหรียญกล้าหาญ Medal Of Honor

ช่วงกลางดึกในปี 2007 Salvatore Giunta ในขณะนั้นเป็นหัวหน้าชุด Rifle team พร้อมด้วยสมาชิกอีก 7 นายกำลังโดนซุ่มโจมตีระยะประชิดจากกลุ่มตาลีบันจำนวนกว่า 20 คน หร้อมอาวุธครบมือ ทั้งปืนกล และเครื่องยิงจรวด RPG

จน Salvatore Giunta ถึงกับบรรยายว่า “มีกระสุนอยู่ในอากาศมากมายอย่างกับดาวบนท้องฟ้า เหมือนมีกำแพงกระสุนเข้ามาหาพวกเราทุกคน ทันทีที่กระสุนนัดแรกออกมา กระสุนอีกนับล้านนัดก็วิ่งตามมา พวกเขาล้อมเราอยู่ทุกด้าน อยู่ใกล้กับเรามาก ใกล้อย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน”

ลูกทีมของเขาได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงถึง 8 นัด เจอขนาดนี้สู้ก็ตายไม่สู้ก็ตาย Giunta จึงขึ้นมาอยู่แนวหน้าและสั่งการให้ทุกคนระดมยิง พร้อมกับระดมขว้างระเบิดมือเพื่อตอบโต้กลับไป และการเปิดหน้าสู้ก็ได้ผล

กลุ่มตาลีบันชะงักลง และเป็น Giunta ที่ฝ่าเข้าไปช่วยผู้บาดเจ็บที่กำลังจะถูกกลุ่มตาลีบันจับตัวไป หลังจากนั้นฝ่ายสนับสนุนก็เข้ามาช่วยเหลือและเข้าเคลียร์สถานการณ์ ทุกคนที่รอดชีวิตมาได้ ต่างยกย่อง Giunta ที่กล้าหาญและเป็นผู้นำที่สู้ไม่ถอย

เรื่องราวของ 3 บุคคลข้างต้นเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของบุคคลที่ต่างถูกยกย่องในความกล้าหาญจำนวน 3,517 ราย ตั้งแต่เหตุการณ์สงครามกลางเมืองจนถึงปัจจุบัน

มาถึงตรงนี้หลายคนคงมีคำตอบแล้วว่า พวกเขาเหล่านั้น ต้องมีความกล้าแค่ไหน ? ถึงได้รับเหรียญกล้าหาญชั้นสูงสุด

และคุณรู้มั้ยครับว่า คำถามที่พวกเขาได้รับเสมอมานั่นคือ “ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ คุณจะตัดสินใจทำแบบเดิมหรือไม่? ”

และคำตอบของทุกคนก็คือ “ใช่ ผมจะทำ”

เคยมีคนพูดเสมอๆว่า คนบางคนเกิดมาเพื่อทำสิ่งที่พิเศษบางอย่าง และพวกเขาก็เกิดมาเพื่อเป็น “ฮีโร่”