Medal Of Honor เป็นเหรียญกล้าหาญชั้นสูงสุด ที่มอบให้เพื่อยกย่องในความกล้าหาญ ของบุคคลที่กล้านำชีวิตเข้าเสี่ยงใขน้าที่ และยอมแม้กระทั่งสละชีวิตของตัวเอง เพื่อปกป้องชีวิตของผู้อื่น เป็นเหรียญที่มอบให้เฉพาะทหารจากกองทัพอเมริกาเท่านั้น
พอเริ่มค้น…เราก็ไปเจอกับ The Soldier’s Creed คำสาบาน ของทหารอเมริกัน
I will always place the mission first. ข้าพเจ้าจะถือภารกิจมาเป็นอันดับแรกเสมอ
I will never accept defeat. ข้าพเจ้าจะไม่มีวันยอมแพ้
I will never quit. ข้าพเจ้าจะไม่มีวันท้อถอย
I will never leave a fallen comrade. ข้าพเจ้าจะไม่มีวันทิ้งเพื่อนทหารที่บาดเจ็บ
ประโยคข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งของคำสาบาน ซึ่งในหมู่ทหารอเมริกันนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องปฏิบัติตาม ลเมื่อนำมาประกอบกับเรื่องราวของทหารแต่ละนายที่ได้รับเหรียญกล้าหาญขั้นสูงสุด
ทำให้เราต้องทึ่งกับความกล้าหาญของพวกเขา
Leroy A. Petry ยอมสละแขนข้างหนึ่ง เพื่อรักษาชีวิตของคนในทีม
จากภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้เข้าจับกุมแกนนำตาลีบีนในปี 2008 ทำให้เขาและเพื่อนร่วมทีมโดนการจู่โจมขากพวกตาลีบีนอย่างหนัก จากนั้นอีกฝ่ายก็ได้ขว้างระเบิดมือเข้ามา“ผมพบว่าระเบิดมือตกอยู่ใกล้ๆ ใกล้จนไม่คิดว่ามันจะระเบิดขึ้นมา ผมจึงหยิบมัน แล้วขว้างออกไปสุดแรงเกิด ทันทีทันใดระเบิดก็ทำงาน เมื่อสิ้นเสียงระเบิด ผมก็พบว่า มือและแขนของผมแทบไม่หลงเหลือสภาพเดิมอีกเลย” Leroy A. Petry กล่าวถึงเสี้ยววินาทีในเหตุการณ์ครั้งนั้น
เขาสูญเสียแขนข้างขวาตั้งแต่ข้อศอก แต่การตัดสินใจในครั้งนั้น ทำให้เพื่อนร่วมทีมรอดพ้นจากความตาย และภารกิจครั้งนั้นก็ลุล่วงไปด้วยดี
Capt. Florent Groberg ฮีโร่ผู้เอาชีวตเข้าขวางระเิ เพื่อเซชีิตคนอื่น
เหตุการณ์ที่ทำให้ Capt. Florent Groberg ได้รับเหรียญกล้าหาญชั้นสูงสุด Medal Of Honor คือเหตุการณ์ที่กิดขึ้นในอัฟกาิสาน ระหว่าที่ำการออกลาดตระเวนเขาได้สังเกตเห็นคนร้ายกำลังจะจุดชนวนเพื่อทำการระเบิดฆ่าตัวตาย เขาจึงตัดสินใจเข้าชาร์จและนำตัวคนร้ายออกไปให้ไกลจากกลุ่มคนและสมาชิกในทีมที่ทำการลาดตระเวนอยู่ตรงนั้นให้มากที่สุด
ในขณะที่เขาเข้าไปชา์จตัวคนร้าย คนร้าก็ไ้จุชวรเิขึ้น แงระเบิดทำให้ Groberg กระเด็นไปไกลถึง 20 ฟุต ส่งผลให้เขาได้รับบาดเจ็บที่ขา แก้วหู และสมอง อาการเป็นตายเท่ากัน จนต้องพักรักษาตัวอยู่ถึง 2 ปีด้วยกัน
Salvatore Giunta ต้นแบบของคำว่า “สู้ตาย”
ช่วงกลางดึกในปี 2007 Salvatore Giunta ในขณะนั้นเป็นหัวหน้าชุด Rifle team พร้อมด้วยสมาชิกอีก 7 นายกำลังโดนซุ่มโจมตีระยะประชิดจากกลุ่มตาลีบันจำนวนกว่า 20 คน หร้อมอาวุธครบมือ ทั้งปืนกล และเครื่องยิงจรวด RPG
จน Salvatore Giunta ถึงกับบรรยายว่า “มีกระสุนอยู่ในอากาศมากมายอย่างกับดาวบนท้องฟ้า เหมือนมีกำแพงกระสุนเข้ามาหาพวกเราทุกคน ทันทีที่กระสุนนัดแรกออกมา กระสุนอีกนับล้านนัดก็วิ่งตามมา พวกเขาล้อมเราอยู่ทุกด้าน อยู่ใกล้กับเรามาก ใกล้อย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน”
ลูกทีมของเขาได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงถึง 8 นัด เจอขนาดนี้สู้ก็ตายไม่สู้ก็ตาย Giunta จึงขึ้นมาอยู่แนวหน้าและสั่งการให้ทุกคนระดมยิง พร้อมกับระดมขว้างระเบิดมือเพื่อตอบโต้กลับไป และการเปิดหน้าสู้ก็ได้ผล
กลุ่มตาลีบนชะงกลง แะเ็น Giunta ที่ฝ่าเข้าไปช่วยผู้บาดเจ็บที่กำลังจะถูกกลุ่มตาลีบันจับตัวไป หลังจากนั้นฝ่ายสนับสนุนก็เข้ามาช่วยเหลือและเข้าเคลียร์สถานการณ์ ทุกคนที่รอดชีวิตมาได้ ต่างยกย่อง Giunta ที่กล้าหาญและเป็นผู้นำที่สู้ไม่ถอย
เรื่องราวของ 3 บุคคข้างตนเป็นพียเสียวนึ่ของุคคลที่ต่างถูกยกย่องในความกล้าหาญจำนวน 3,517 ราย ตั้งแต่เหตุการณ์สงครามกลางเมืองจนถึงปัจจุบัน
มาถึงตรงนี้หลายคนคงมีคำตอบแล้วว่า พวกเขาเหล่านั้น ต้องมีความกล้าแค่ไหน ? ถึงได้รับเหรียญกล้าหาญชั้นสูงสุด
และคุณรู้มั้ยครับว่า คำถามที่พวกเขาได้รับเสมอมานั่นคือ “ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ คุณจะตัดสินใจทำแบบเดิมหรือไม่? ”
และคำอบของทกคนก็คอ “ช่ ผมจะทำ”
เคยมีคนพูดเสมอๆว่า คนบางคนเกิดมาเพื่อทำสิ่งที่พิเศษบางอย่าง และพวกเขาก็เกิดมาเพื่อเป็น “ฮีโร่”