source : https://patr.io/uSlcE
ที่ผ่านมากองทัพไทยได้ซื้ออาวุธปืนหลายชนิดเพื่อนำมาประจำการ ปืนเหล่านั้นล้วนนำเข้ามาจากต่างประเทศทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็น M16 จากสหรัฐอเมริกา Tavor TAR-21 จาก อิสราเอล Ak-47 จากสหภาพโซเวียต HK33 จาก เยอรมนี และอีกมากมาย ซึ่งเหตุผลที่ต้องนำเข้าปืนจากต่างประเทศอย่างเดียวเนื่องจากประเทศไทยยังขาดความพร้อมทั้งในด้าน เทคโนโลยี และองค์ความรู้ จึงไม่สามารถผลิตปืนขึ้นเองได้
แต่ในปัจจุบัน ประเทศไทยสามารถสร้างปืนของตนเองได้แล้ว! เป็นปืนเล็กยาวขนาด 5.56 มม. ในนาม “NARAC556” ปืนเล็กยาวสัญชาติไทย ที่ออกแบบ และผลิตด้วยฝีมือคนไทยกระบอกแรกในประวัติศาสตร์ เจ้าปืนกระบอกนี้ จะมีหน้าตา สมรรถนะ และขีดความสามารถเป็นยังไง วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟัง…
หลังจากที่ได้ทดลอง และผลิตอยู่ระยะเวลาหนึ่ง ในที่สุดวันที่ 18 สิงหาคม พุทธศักราช 2563 พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ เจ้ากรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม และคณะ ได้เดินทางไปรับมอบผลการวิจัยปืนเล็กยาวขนาด 5.56 มิลลิเมตร NARAC556 ณ บริษัท NARAC ARMS INDUSTRY และได้รับชม พร้อมร่วมทดสอบสมรรถนะของปืน ในสถานการณ์ต่างๆอีกด้วย
NARAC556 เป็นโครงการวิจัยและพัฒนาของ บริษัท NARAC ARMS INDUSTRY ซึ่งร่วมมือกับ กรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม และหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ เพื่อทำการศึกษาความเป็นไปได้ที่ไทยจะสร้างอาวุธปืนเล็กที่มีประสิทธิภาพสูง สมรรถนะดีเยี่ยม เหมาะกับรูปแบบการทำงานของเจ้าหน้าที่ไทย และ ผลิตขึ้นภายในประเทศ ซึ่งเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของรัฐบาลว่าด้วยเรื่อง การส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ที่มุ่งเน้นการพึ่งพาตนเอง
สำหรับข้อมูลทางเทคนิคเบื้องต้นที่ทางบริษัทได้เผยแพร่ออกมาบางส่วนดังนี้
-น้ำหนักปืนเปล่า 2.9 กิโลกรัม
-ความยาวลำกล้อง 14.5 นิ้ว วางตัวแบบอิสระ(Free Float)
-ระบบการทำงานแบบ Short Stroke Gas-operated
-คันบังคับการยิงแบบ Ambidextrous (สามารถปรับได้จากทั้งฝั่งซ้าย และ ฝั่งขวา) ทำการยิงได้สองโหมดคือ ทีละนัด และ Full Auto
มาดูในด้านของสมรรถนะของปืนกันบ้างครับ ในการทดสอบครั้งนี้ได้มีการทดสอบหลายๆหัวข้อ และหลายสถานการณ์ที่อาจจะต้องเจอเมื่อใช้ในสมรภูมิต่างๆ โดยมีการทดสอบดังนี้
1.ทดสอบแรงรีคอยล์ ด้วยปลอกลดแสงแบบพิเศษที่บริษัทออกแบบเองจึงช่วยให้แรงรีคอยล์ของปืนลดลงมากจนสามารถเหนี่ยวไกแบบ Full Auto ได้จนหมดแม็กโดยที่ผู้ยิงยังยืนได้ชิลๆ ไม่เซเลยแม้แต่นิดเดียวครับ
2.ทดสอบแสงจากปากกระบอกปืน เช่นเดียวกับการทดสอบแรงรีคอยล์ ด้วยปลอกลดแสงแบบพิเศษจึงทำให้แสงที่ออกมาน้อยมากจนแทบจะมองไม่เห็นเลยครับ
3.ทดสอบท่ายิงต่างๆ ไม่ว่าจะลองยิงทั้งแนวตั้ง แนวนอน แนวตะแคง หรือหงายปืนยิง เจ้า NARAC556 ก็สามารถยิงได้โดยไม่มีอาการติดขัดแม้แต่นิดเดียว
4.ทดสอบความปลอดภัยเมื่อปืนตกจากที่สูง NARAC556 ถูกปล่อยลงจากความสูงประมาณ 2 เมตร โดยทำการปล่อยลงทุกมุม ทุกองศา ที่เป็นไปได้ ทั้งเอาพานท้ายลงพื้น เอาแมกกาซีนลงพื้น เอาปลอกลดแสงลงพื้น เอาด้านข้างของปืนลงพื้น ซึ่งทุกๆครั้งที่ปล่อยได้ใส่กระสุนแบลงค์ไปด้วยเพื่อความสมจริง แต่ก็ไม่เกิดการลั่นเลยสักครั้ง
5.ทดสอบการยิงในพื้นที่ฝุ่นเยอะ ผู้ทดสอบได้ลองทดสอบในกล่องกระจกที่บรรจุฝุ่นเข้าไปจนคลุ้งและลองยิง NARAC556 ดูแต่ก็ยังสามารถยิงได้โดยไม่ติดขัด
6.ยิงในพื้นที่อุณหภูมิสูง NARAC556 ถูกนำเข้าไปในเครื่องควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งทำอุณหภูมิสูงไปถึง 74 องศาเซลเซียส แต่ก็ยังสามารถยิงได้ปกติเหมือนยิงอยู่ในอุณหภูมิที่เราใช้ชีวิตกันทั่วไป
7.ทดสอบการยิงในสายฝน ผู้ทดสอบได้ทำการยิง ภายใต้อุปกรณ์จำลองฝน ซึ่งก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไรต่อการยิงของเจ้า NARAC556 เลย
8.ทดสอบการยิงแบบเปียก(เอาปืนแช่น้ำแล้วยกขึ้นมายิง) ผู้ทดสอบได้ลองลงไปในน้ำพร้อมนำเจ้า NARAC556 ลงไปด้วย จากนั้นก็ได้โผล่ขึ้นจากน้ำแล้วประทับยิงในทันที(เหมือนฉากในภาพยนตร์ที่เราเคยเห็น NAVY SEAL โผล่ขึ้นมาจากน้ำแบบนั้นเลยครับ) ผลการทดสอบก็เป็นไปตามคาด NARAC556 สามารถยิงต่อได้โดยไม่ได้ติดขัดแต่อย่างใด
9.ทดสอบการยิงใต้น้ำ(ยิงขณะที่ปืนอยู่ใต้น้ำ) คล้ายกับการทดสอบที่ผ่านมาแต่ครั้งนี้ไม่ได้นำเจ้า NARAC556 ขึ้นมาด้วยแต่ทำการยิงทั้งๆที่มันยังจมอยู่ใต้น้ำ ซึ่งมันก็ยังสามารถยิงได้ปกติ เท่านั้นยังไม่พอ ผู้ทดสอบยังทำการยิงแบบ Full Auto แต่ NARAC556 ก็ไม่ทำให้เราผิดหวังแต่อย่างใด สามารถยิงได้รัวไม่แพ้อยู่บนฝั่งเลยทีเดียว
10.ทดสอบการยิงหลังจากแช่น้ำเกลือ(จำลองเมื่อปืนถูกแช่อยู่ในน้ำทะเล) ผู้ทดสอบได้นำเจ้า NARAC556 แช่ในน้ำเกลือจากนั้นก็นำขึ้นมาตากให้แห้ง จากภาพจะเห็นได้ว่าเกลือขึ้นเต็มกระบอกปืนเลยล่ะครับ แต่เมื่อนำมาทดสอบก็ไม่ได้เป็นผลต่อการยิงแต่อย่างใด
11.ทดสอบการยิงหลังจากปืนถูกฝังในดินทราย การทดสอบนี้เป็นการทดสอบที่ค่อนข้างน่าประทับใจ เพราะผู้ทดสอบได้นำเจ้า NARAC556 ไปฝังกลบด้วยดินทรายจนท่วม มิหนำซ้ำยังขึ้นไปเหยียบ ย่ำดินให้แน่น จากนั้นก็นำปืนขึ้นมาทำการยิงซึ่งก็สามารถทำการยิงได้โดยที่ไม่มีการติดขัดเลยแม้แต่นิดเดียว
12.ทดสอบการยิงหลังจากปืนถูกฝังในโคลน การทดสอบนี้เป็นการทดสอบที่น่าตกใจ และน่าประทับใจยิ่งกว่า!! และเป็นการทดสอบที่ผมชอบที่สุด โดยที่ผู้ทดสอบได้น้ำเจ้า NARAC556 ไปวางลงในกระบะแล้วเทโคลนที่ทั้งหนืด ทั้งเหนียวลงในกระบะให้ท่วมตัวปืน จนแทบจะมองไม่เห็นสภาพเดิมของปืนอยู่เลย จากนั้นก็หยิบปืนขึ้นมายิงต่อได้เลยในขณะที่โคลนยังปกคลุมทั่วทั้งปืนซึ่งก็แน่นอนครับ เจ้า NARAC556 ทำการยิงได้อย่างชิลๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับมันเลยล่ะครับ
13.ทดสอบการยิงต่อเนื่อง 6000นัด การทดสอบนี้เป็นการทดสอบสุดท้าย เพื่อทดสอบความทนทานของลำกล้องและตัวปืน โดยทำการยิงต่อเนื่องเป็นจำนวน 6000 นัด หลังการยิงปืนก็ยังมีความแม่นยำอยู่ และผลการเอกซเรย์ ลำกล้องปืนก็ไม่ได้เสียหายแต่อย่างใด
source : https://patr.io/JvMHv
การทดสอบทั้งหมดเรียกได้ว่าเป็นบททดสอบที่ค่อนข้างหินเลยทีเดียว ซึ่งเจ้า NARAC556 มัจจุราชสัญชาติไทยกระบอกนี้ก็สามารถผ่านแบบทดสอบทั้งหมดไปได้อย่างฉลุย ยิ่งเป็นการยืนยันว่าปืนที่คนไทยออกแบบ และผลิตเองนั้น มีสรรถนะที่ดีไม่แพ้ปืนแบรนด์ดังอื่นๆ และเป็นข้อพิสูจน์ที่เห็นได้ชัดเจนว่าถ้าหากคนไทยคิดจะทำอะไรจริงๆ ก็สามารถทำได้ และทำได้ดีไม่แพ้ชนชาติใดในโลกอีกด้วย
ทั้งนี้ทั้งนั้นนี่เป็นเพียงขั้นตอนการตรวจผลการวิจัยเท่านั้นยังไม่ใช่การรับเข้าประจำการในกองทัพ แต่ผมก็หวังในใจว่าคงจะได้เห็น NARAC556 ปืนเล็กยาวสัญชาติไทยที่ผลิตโดยคนไทย เข้าประจำการในเร็ววันนี้ครับ ประเทศไทยจะได้ไม่ต้องพึ่งพาต่างประเทศอย่างเดียว และจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาต่อยอดในอนาคต ดั่งคำขวัญที่ว่า “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ”
ถ้าหากท่านใดต้องการดูคลิปการทดสอบสมรรถนะของปืนแบบเต็มๆสามารถเข้าไปดูต่อได้ที่ Facebook : NRC Ammunition ครับ