X

ต้นกำเนิด Dog Tag ป้ายบอกชื่อทหาร

ท่ามกลางสมรภูมิรบ ศพทหารตายนับพันนับหมื่น ยิ่งสงครามพัฒนาไปสู่สงครามสมัยใหม่มากขึ้น กองทัพและกำลังทหารก็ยิ่งขยายตัว จำนวนผู้เสียชีวิตก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ  สภาพศพของทหารบางนายนั้นเละเทะจนเรียกได้ว่าแทบจะจำเค้าเดิมไม่ได้!! แล้วจะทำอย่างไรถึงจะระบุชื่อของทหารที่ตายนายนั้นได้ ทำยังไงครอบครัวของเขาจะได้รับรู้ สามี หรือ พ่อของลูก ที่สูญเสียไปในสงครามสิ่งนี้เองจึงเป็นที่มาของ Dog Tag ทั้งนี้ มีการบันทึกว่า ป้ายเพื่อบอกชื่อทหารมาตั้งแต่สมัยโรมัน โดยทหารที่เขามาในสังกัดลีเจี้ยนจะได้ป้ายชื่อหนังห้อยคอที่เรียกว่า “signaculum” ซึ่งเอาไว้บอกชื่อทหารและสังกัดของเขา

 

 

Signaculum ของทหารโรมันในยุคโบราณ

ที่มา – https://i.imgur.com/20KOOZf.jpg

 

ข้ามมาถึงช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ที่เริ่มมีเทคโนโลยีการดองศพ มาถึงยุคสงครามกลางเมืองอเมริกา กองทัพฝ่ายสหภาพ (Union Army) เริ่มมีการให้บริการนำศพของทหารฝ่ายเดียวกันกลับมาฝังที่บ้านของตน ซึ่งวิธีก็คือให้ทหารที่มีเงินพอจะซื้อบริการนี้ห้อยเลขที่กรมธรรม์ที่ซื้อไว้แล้วเมื่อเขาตาย ฝ่ายบริการจะได้หาศพของเขาถูก กระทั่ง ค.ศ.1862 เริ่มมีไอเดียว่าทหารแต่ละนายควรมีป้าย ID เพื่อระบุตัวตน แต่ไม่มีใครยอมรับเป็นทางการ ซึ่งทั้งนี้ผู้เสียชีวิตในสงครามกลางเมืองนั้นมีถึง 40% ที่ระบุตัวตนไม่ได้!! ทั้งนี้ทั้ง 2 ฝ่ายต่างหาซื้อป้ายบอกชื่อเป็นของตัวเอง ซึ่งประเทศในยุคใหม่ที่นำเอา ป้ายชื่อ มาใช้เป็นทางการคือ ปรัสเซีย ที่ให้ทหารทุกนายพกป้ายระบุตัวตนไว้ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาชาติต่างๆในโลกใช้ ป้ายบอกชื่อ ตามปรัสเซีย

 

ป้ายชื่อแสดงตัวของทหารในช่วงสงครามกลางเมือง

ที่มา – https://arc-anglerfish-washpost-prod-washpost.s3.amazonaws.com/public/ H4C27XC564I6ZMPPZN4L44L7BY.jpg

 

กองทัพอังกฤษเริ่มใช้ป้ายบอกชื่อใน ค.ศ.1907 โดยคำสั่งกองทัพหมายเลข 9 โดยระบุว่า ป้ายชื่อนั้น จะต้องเป็นอะลูมิเนียมที่พร้อมสายห้อยคอยาว 42 นิ้ว ขนาดของป้ายนั้นจะมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 35 มิลลิเมตร และมีข้อมูล ขนาด 8 มิลลิเมตรเขียนอยู่ ซึ่งจะบอกหมายเลขของทหาร ชื่อทหาร สังกัดที่อยู่ รวมถึง ศาสนา สำหรับกองทัพสหรัฐอเมริกานั้นก็ได้บัญญัติให้ทหารมีป้ายชื่อในช่วง ค.ศ.1906 ขนาดเท่าครึ่งเหรียญดอลลาร์ และห้อยด้วยโซ่คล้องคอ  ซึ่งจะบอกชื่อของทหาร และสังกัดของเขาในนั้น

 

Dog Tag ของทหารอังกฤษ

ที่มา – https://www.westernfrontassociation.com/media/9046/british-1907.png?width=800&height=316

 

Dog Tag ของทหารเยอรมัน

ที่มา – https://www.westernfrontassociation.com/media/8963/screenshot-2020-01-11-at-113205.png?width=864&height=183

 

เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้น ผลปรากฏว่า อะลูมิเนียมนั้นแพงและหายาก จึงได้มีการออกแบบ Dog Tag แบบใหม่ที่ทำจากแร่ใยหินวัลคาไนซ์ ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ซีก ซีกสีแดงกับสีเขียว โดยเวลาผู้สวมใส่เสียชีวิตจะมีการหักแถบสีแดงออกไปส่วนสีเขียวนั้นจะยังคงอยู่กับผู้ตาย ในขณะเดียวกันกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาก็พึ่งรับวัฒนธรรม Dog Tag มาในช่วง ค.ศ.1917 ซึ่งทำจากนิกเกิล รวมถึงมีการประทับตรานิ้วมือไปด้วยเพื่อยืนยันจริงๆว่าบุคคลนี้ใช่คนเดียวกันหรือไม่  ไม่นานนักทหารสหรัฐทุกเหล่าก็มี Dog Tag ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 Dog Tag ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก โดยส่วนใหญ่จะระบุ ชื่อ ยศ สังกัด กรุ๊ปเลือด รวมถึง ศาสนา ของเจ้าของ ทุกวันนี้หลายประเทศยังคงมี Dog Tag เช่นในกองทัพสหรัฐอเมริกาซึ่งถึงแม้ว่าจะมีการลบข้อมูลบางอย่างออกเพื่อความปลอดภัยของทหาร หรือในกองทัพอังกฤษก็ยังคงมีการใช้ Dog Tag อยู่ถึงแม้เทคโนโลยีการตรวจ DNA ปัจจุบันจะสามารถระบุตัวตนได้อย่างรวดเร็วก็ตาม แต่มันก็กลายเป็นสัญลักษณ์ส่วนหนึ่งของทหารไปแล้ว

 

Dog Tag ของกองทัพสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน

ที่มา – https://cdn01.pinkoi.com/product/VUSfhnz4/31/640×530.jpg