“กองพันพยัคฆ์น้อย” ทหารไทยที่เป็น “ฮีโร่” ของชาวเกาหลี
ทุกๆคนรู้มั้ยครับว่าครั้งหนึ่งทหารไทยของเราเคยไปสร้างชื่อในสงครามเกาหลี โดยการต่อสู้อย่างกล้าหาญ จนชนะกองกำลังคอมมิวนิสต์ของเกาหลีเหนือและจีน
ด้วยความกล้าหาญของทหารไทยกองทัพสหรัฐจึงได้ยกย่องให้เป็น “พยัคฆ์น้อย” และกลายเป็นวีรบุรุษของชาวเกาหลี เรื่องราวจะเป็นยังไง วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟัง…
สงครามเกาหลีเกิดขึ้นในช่วงปีพุทธศักราช 2493-2496 โดยหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศเกาหลีได้ถูกแบ่งออกเป็น เกาหลีเหนือ ที่ได้รับการสนับสนุนจากจีน และเกาหลีใต้ ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา โดยใช้เส้นขนานที่38 เป็นเส้นแบ่ง สงครามเกาหลีเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่จีนปลุกปั่นเกาหลีเหนือให้เข้ายึดเกาหลีใต้ และได้โจมตีสายฟ้าแลบต่อประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งในขณะนั้นกองทัพเกาหลีใต้ยังไม่มีขีดความสามารถเพียงพอที่จะต่อสู้กับเกาหลีเหนือได้ กองกำลังสหประชาชาติจึงยื่นมือเข้ามาช่วย โดยมีประเทศในกลุ่มสหประชาชาติเข้าร่วมรบหลายประเทศ รวมไปถึงประเทศไทย ระหว่างสงครามเกาหลีมีสมรภูมิการรบเกิดขึ้นมากมาย หนึ่งในนั้นคือสมรภูมิPork Shop Hill เป็นสมรภูมิหนึ่งที่สำคัญต่อสงครามเกาหลี ที่ซึ่ง “กองพันพยัคฆ์น้อย” ของประเทศไทยได้ไปสร้างวีรกรรมเอาไว้จนเป็นที่เลื่องชื่อจนมาถึงปัจจุบัน
Pork Chop Hill สำคัญแค่ไหน? เนินเขาพอร์คชอป เป็นเนินเขาสูงประมาณ 255 เมตรจากระดับน้ำทะเล ลักษณะเป็นเนินเขาโดดเดี่ยวท่ามกลางหุบเขาสลับซับซ้อน ตั้งอยู่บริเวณเมืองโพชอน จังหวัดคยองกี ตอนเหนือของประเทศเกาหลีใต้ เนินเขาพอร์คชอป เป็นพื้นที่ที่สามารถควบคุมเส้นทางหลักที่จะเข้าสู่เมือง ชอวอน และเป็นพื้นที่สูงข่มบริเวณแม่น้ำอิมจินซึ่งสามารถเดินทางไปยังกรุงโซล(เมืองหลวงของเกาหลีใต้) และกรุงพยองยาง(เมืองหลวงของเกาหลีเหนือ)ได้อีกด้วย เนินเขาพอร์คชอปจึงกลายเป็นภูมิประเทศสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายต่างห้ำหั่นแย่งกันเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ของตนเอง ในขณะนั้น กองพันทหารราบอิสระ กรมผสมที่21 ภายใต้การบังคับบัญชาของ พันโท เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ ได้รับคำสั่งให้ยึดรักษาเนินเขาพอร์คชอปไว้
วันหนึ่งมีสายข่าวรายงานว่า กองกำลังคอมมิวนิสต์กำลังเตรียมการเข้าตีเพื่อยึดเนินเขาพอร์คชอป ด้วยความที่เป็นภูมิประเทศสำคัญมาก ดังนั้นคำสั่งที่ตามมาหลังจากได้รับข่าวคือ ให้ยึดรักษาเนินเขาพอร์คชอปไว้ให้ได้เท่านั้น ห้ามถอย หรือถอนตัวเด็ดขาด ฝ่ายพันโทเกรียงศักดิ์ เมื่อได้รับคำสั่งจากหน่วยเหนือแล้ว ก็ได้วางแผนยุทธการ และสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาดัดแปลงที่มั่นเพื่อตั้งรับการโจมตีจากข้าศึกทันที และแล้วข่าวจากสายข่าวก็เป็นความจริง กองกำลังคอมมิวนิสต์ได้บุกเข้าโจมตีเนินเขาพอร์คชอปในคืนของวันที่ 1 พฤศจิกายน 2495
ในค่ำคืนอันเงียบสงัด เสียงระเบิดลูกแรกดังขึ้นจากปืนใหญ่ขนาด 155 มม.ของฝ่ายกองกำลังคอมมิวนิสต์ และถูกระดมยิงอย่างหนักหน่วงถึง4ชั่วโมง
ฐานที่มั่นทหารไทยถูกทำลายเสียหายอย่างหนักแต่ทหารยังมีขวัญกำลังใจดีเยี่ยมด้วยการดูแลของผู้บังคับบัญชา จากนั้นกองกำลังคอมมิวนิสต์ได้ทำการบุกเข้าตีเนินเขาพอร์คชอปเป็นระรอกแรก ทหารไทยได้ต่อสู้อย่างสุดความสามารถจนสามารถเอาชนะข้าศึกไปได้ การรบดำเนินไปอย่างยาวนานถึง10วัน จนถึงคืนวันที่ 10พฤศจิกายนเวลา 23.00 น. เป็นระรอกที่หนักที่สุด กองกำลังคอมมิวนิสต์ได้ทุ่มเทกำลังมากที่สุดเพื่อทำการเข้าตีครั้งใหญ่ ฝ่ายคอมมิวนิสต์ได้ระดมยิงปืนใหญ่และลูกระเบิดอย่างหนัก และใช้ทหารราบเข้าตีจากทุกทิศทาง ฝ่ายทหารไทยร้องขอปืนใหญ่จากสหรัฐให้ช่วยยิงสะกัดกั้น และได้ยิงต่อสู้กับทหารกองกำลังคอมมิวนิสต์อย่างห้าวหาญ ด้วยกำลังพลจำนวนมากของฝ่ายข้าศึกจึงไม่สามารถสกัดกั้นไว้ได้ ข้าศึกสามารถเล็ดลอดเครื่องกีดขวางจนบุกเข้ามาถึงฐานที่มั่น แต่ทหารไทยก็ไม่ยอมแพ้ต่อสู้กับข้าศึกในระยะประชิดอย่างนองเลือดด้วยอาวุธปืน ระเบิดมือ และถึงขั้นใช้ดาบปลายปืน! การรบดำเนินไปอย่างดุเดือดควันปืนลอยคละคุ้ม เสียงปืน และเสียงระเบิดดังระงม ยาวนานถึง2ชั่วโมงเศษ จนกระทั่งเวลา 01.30 น.ของวันที่ 11 เสียงปืนเงียบลง กองกำลังคอมมิวนิสต์ไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งของทหารไทยได้จึงได้ถอนตัวออกไปจากเนินเขาพอร์คชอปในที่สุด
รุ่งอรุณของวันนั้น พลโท Paul W. Kendall แม่ทัพน้อยที่1 พร้อมกับ พลตรี James C. Fly ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่2 สหรัฐอเมริกา นั่งเฮลิคอปเตอร์มาพบปะ ให้กำลังใจ และชื่นชมวีรกรรมอันหาญกล้ากองกองทัพไทย และได้กล่าวถ้อยคำประวัติศาสตร์หนึ่งไว้ว่า “ข้าพเจ้าไม่มีอะไรสงสัย ในจิตใจแห่งการต่อสู้ของทหารไทยอีกแล้ว” และได้ให้สมญานามว่า “Little Tiger” หรือ “พยัคฆ์น้อย” นั้นเอง ผลการรบในสมรภูมิPork Chop hill พบศพทหารฝ่ายคอมมิวนิสต์ถึง 322ศพ ในขณะที่ทหารไทยเสียชีวิต 25นาย เท่านั้น ผลการรบในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้กองกำลังคอมมิวนิสต์ยอมเจรจาหยุดยิง เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2496 และกลายเป็น ปฏิญญาปันมุนจอม ซึ่งทำให้เกิดเขตปลอดทหาร หรือ Demilitarized Zone(DMZ) มาจนถึงปัจจุบัน
จากการรบครั้งนั้น พันโทเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ ได้รับเหรียญกล้าหาญระดับ Legion Of Merit จากสหรัฐอเมริกา นอกจากนั้นยังมีทหารในหน่วยได้รับเหรียญกล้าหาญระดับ Silver Star 12 นาย และระดับ Bronze Star อีก 26 นาย หลังสงครามสิ้นสุดลงกรมผสมที่21 ได้กลับภูมิลำเนาที่ประเทศไทยต่อมาได้แปรสภาพเป็น กรมทหารราบที่21 รักษาพระองค์ นั่นเอง
ด้วยความช่วยเหลืออันกล้าหาญของทหารไทย เพื่อช่วยป้องอธิปไตยให้ประเทศเกาหลีใต้ ทำให้เกาหลีใต้ซาบซึ้งในการกระทำของทหารไทย จนกย่องให้เป็นวีรบุรุษ และได้สร้างอนุสาวรีย์ทหารไทย (Thai Soldier Monument) ที่เมืองโปซอน จังหวัด คยองกี และได้จัดพิธีรำลึกถึงทหารไทยทุกๆปี เพื่อรำลึกถึงวีรกรรม และความเสียสละของทหารไทยในช่วงสงครามเกาหลี นอกจากนั้นประเทศเกาหลีใต้ยังได้เปิดฟรีวีซ่า ให้คนไทยทุกคนสามารถเดินทางเข้าประเทศเกาหลีได้นานถึง 90 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่าอีกด้วย เพื่อตอบแทนมิตรภาพที่ประเทศไทยช่วยเหลือเกาหลีใต้ในยามสงคราม นับว่ามีไม่กี่ประเทศในโลกที่ได้รับสิทธิพิเศษเช่นนี้ครับ