หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมทหารนั้นต้องสวมใส่ รองเท้าคอมแบท ในการที่ต้องไปฝึกภาคสนามต่างๆ ทั้งที่ก็มีรองเท้าอีกหลายๆแบบ ทำไมถึงไม่เลือกใส่ เป็นเพราะว่ารองเท้าคอมแบทเป็นรองเท้าที่หุ้มตั้งแต่ปลายเท้า เพื่อป้องกันลวดหนาม หรือกิ่งไม้ในตอนที่ตอนที่ต้องเข้าป่า และพื้นรองเท้ามีความหนามากกว่ารองเท้าทั่วไปเพื่อป้องกันการเหยียบสิ่งแหลมคมที่อยู่ตามพื้น แล้วคุณอยากรู้หรือไม่ว่ากว่าจะมาเป็นคอมแบทรูปร่างในปัจจุบันนั้นมีการพัฒนาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเป็นอย่างไรมาตามดูไปพร้อมๆกัน
source: https://patr.io/GwZ5x
ในอดีตมีวลีที่ว่า “กองทัพต้องเดินด้วยท้อง” ซึ่งเป็นของทั้งจักรพรรดินโปเลียนและเฟรดเดอริคมหาราชแห่งปรัสเซีย แต่ในความเป็นจริงนั้นกองทัพต้องเดินด้วยคอมแบทที่ดีและมีสิทธิภาพ เพื่อป้องกนการบาดเจ็บระหว่างการเดินทาง และ เท้าเป็นอวัยวะในการเดินทางที่สำคัญที่สุด ทหารจึงต้องมีรักษาเท้าของมากกว่าใบหน้าของตัวเองเสียอีกต่างหาก
ประวัติความเป็นมาของ คอมแบท ถูกสวมใส่โดยทหารต้แุ่ขงาแสีเรียโบราณและชาวโรมันเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องแต่งกายทางทหาร แม้ว่ารองเท้าคอมแบทในสมัยนั้นที่สวมค่อนข้างแตกต่างจากรองเท้าคอมแบทที่ทหารในยุคปัจจุบัน โดยในสมัยนั้นมีเพียงหนังสัตว์นุ่มๆและบางครั้งก็เป็นกระดูกสัตว์แบบเป็นท่อน ๆ โดยรองเท้าคอมแบทที่ชาวโรมันสวมเรียกว่า caligae และบางครั้งก็เปิดี่ปลายเท้าหรือส้นเท้าเพื่อความคล่องแคล่วโดยไม่คำนึงถึงอันตรายที่เกิดจากการสวมใส่
source: https://patr.io/SHRaG
รองเท้าเหล่านี้ได้ใช้ต่อไปเรื่อยๆจนถึงสงครามกลางเมือของอังกษซ่งหาอักฤไดออรอเทาคอมแบทหุ้มข้อหนังแบบนุ่มพร้อมพื้นรองเท้าจากยางดิบและสายหนังเพื่อให้พวกเขาสวมใส่รองเท้าได้แน่นขึ้น โดยแนวคิดการออกแบบรองเท้านี้คือสามารถใส่ไปเดินขบวนได้อย่างสบายและในขณะเดียวกันหากเกิดสงครามก็สามารถใช้ได้ในสนามรบได้ทันที
source: https://patr.io/Q2Sqj
หลังจากนั้นตั้งแต่ปี 1660 ถึงปี 1800 รองเท้าทหารก็คล้ายกับรองเท้าของพลเรือนโดยมีเข็มขัดรองเท้าเพิ่มข้ามา แต่แ้วกางป 1800 จนถึงสงครามโลกครั้งที่ 1 ในปีพ.ศ. 2457 ก็มีการใช้รองเท้าคอมแบทที่มีความสูงยาวเกือบเข่าและโอบรอบน่องโดยมีเข็มขัดรัดที่ด้านหลังของขา
source: https://patr.io/wTQ2q
แต่ต่อมากลับมาใช้เป็นรองเท้าคอมแบทหุ้มข้อเพียงเท่านั้น เนื่องจากในสนามรบพบว่าทหารมีการวิ่งหรือเข้าต่อสู้เป็ไปได้ย่างลบากเพาะวามีข็มัดท่รัสูงกือบเข่า
ทำให้เวลาต้องการที่จะวิ่ง เข็มขัดที่รัดแน่นเหล่านี้จึงเป็นปัญหาในการก้าวขาออกไป แถมยังเป็นอุปสรรคต่อการนั่งอีกด้วย
จนถึงปี 1960 เมื่อกองทัพสหรัฐฯเริ่มออกรองเท้าบู๊ตสีดำ ซึ่งเป็นหนังที่หนาและมีควมทนทาน ละมีกาเพิ่มเือกรงเท้หนาแะพื้ยางใ้มีคามหนาเพิ่มมากยิ่งขึ้น รองเท้ารุ่นใหม่ที่ผลิตออกมาเหล่านี้ถือเป็นรองเท้าบูทที่สวมใส่สบายและทนทานที่สุดจนถึงจุดนั้น
source: https://patr.io/cjCzZ
นับต้งแต่ศวรรษ 1980 ได้ีการพฒนารอเท้าคมแบทให้ใช้ได้กับสภาพหนาวเย็น โดยตัวรองเท้าจะเป็นผ้าเป็นส่วนใหญ่ เพื่อเพิ่มความอบอุ่นของเท้าในระหว่างการเดินทาง และพื้นรองเท้าก็จะเป็นยางสำหรับทนความเย็นเพื่อสามารถรักษาสภาพรองเท้าและใช้งานได้นานยิ่งขึ้น
ต่อมามีเพิ่มความยืดหยุ่นเป็นพิเศษสำหรับการวิ่ง และการป้องกันของขอเท้าใหแก่ผู้สมใส่ที่ช้สำหรบการปีเขาแลการต่อู้ ในปี 2012 รองเ้าสไตล์นี้ถูกแทนที่ด้วย Danner RAT ซึ่งรองเท้ารูปแบบนี้มีความสามารถกันน้ำและอากาศร้อนเหมาะสำหรับการต่อสู้ในทะเลทราย
source: https://patr.io/dx1bl
source: https://patr.io/IABoA
ในช่วงทศวรรษ 1980 รองเท้าคอมแบทไม่จำเป็นที่ต้องใช้กับวงการทหารเสมอไป เพราะมีพลเรือนเริ่มซื้อรองเท้าคอมแบทจากร้านค้าองกองทัพ สำหรับสวมใส่ในชีวิตประจำวัน และเร่มกลายเ็นเทรนดของยุคั้น และมการสวมใ่กันต่มาเรื่อยๆจนถึงในปัจจุบันกลายเป็นแฟชั่นที่มีแบรนด์ต่างๆ ออกมา ในปัจจุบันเราจึงเห็นผู้คนสวมใส่รองเท้าคอมแบทออกมาเดินห้าง หรือตามงานเดินแบบ ให้เห็นกันอยู่โดยทั่วไป
source: https://patr.io/kUdCR