PTSD โรคร้ายของทหารผ่านศึก
หลายๆคนมีความเชื่อผิดๆว่าทหารที่เคยผ่านสงครามหรือราชการสนามมาก่อน จะเป็นทหารที่มีจิตใจที่แข่งแกร่ง มีความอดทน อด ไหวต่อความยากลำบาก เป็นทหารอาชีพที่แท้จริง แต่ความจริงนั้น พวกเขาจะต้องรับมือกับแรงกดดันมากมาย ต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ต่างๆที่มันอาจจะเลวร้ายเกินกว่าที่คนธรรมดาจะรับได้บางคนอาจจะมีภาพติดตาที่เป็นแผลในใจ
หรือตราบาปของเขาไปตลอดชีวิต หรืออาจจะเป็นความภาคภูมิใจในหน้าที่ของตัวเองที่สามารถทำให้รรลุได้เป็นต้น บทความนี้จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับโรค PTSD โรคร้ายของทหารผ่านศึกกันครับ
source: Veterans Day discounts available for active, former military in Western New York | wgrz.com
ผู้อ่านจำเหตุการณ์ที่ Chris Kyle หรือ American sniper ถูกเพื่อนทหารผ่านศึกที่อิรักที่เขาเคยช่วยชีวิตไว้ยิงเสียชีวิต ในสนามยิงปืนที่บ้านเกิดของตัวเองได้ไหมครับ นั่นคือผลกระทบจากของโรคนี้ซึ่งทำห้ทหารนายนั้นเกิดภาวะแปรปรวนทางอารมณ์อย่างรุนแรง
แล้วเจ้า PTSD มันคืออะไรล่ะ ? เรามาดูคำตอบกันครับ
source: What Are the Differences Between PTS and PTSD? | BrainLine
Chris Kyle 1 ในเหยื่อของผู้เป็นโรค PTSD ยิงเสียชีวิต
PTSD ย่อมาจาก Post-Traumatic Stress Disorder คือสภาวะการป่วยทางจิตใจเมื่อเผชิญกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างร้ายแรงส่งผลให้เกิดความเครียดอย่างมาก (ไม่ใช่โรคซึมเศร้านะครับ) ผู้ป่วยโรคนี้ จะมีทั้งหมด 2 ระยะ
ระยะที่ 1 ระยะทำใจ หรือ Acute Stress Disorder จเป็นอากร่งรใรย 1 ดอ คืออาการเครียดเฉียบพลัน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอาการเครียดแล้วเกิดอาการทางประสาทขึ้นมาได้
ระยะที่ 2 เป็นระยะที่ผู้ป่วยเป็นจะโรคนี้ คือ กินระยะเวลานานมากกว่า 1 เดือน บางคนอาจจะยาวนานหลายเดือนถึงเป็น ปีแ้วต่วารุแรแลสภพแดลอม้อรอบตัวบุคคล มีลักษณะอาการสำคัญ 4 อย่าง
– เห็นภาพเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นนั้นตามมาหลอกหลอนอยู่บ่อยๆ หรือฝันถึงเหตุการณ์เหล่านั้นบ่อยๆ – เกิดความตื่นตัว เห็นเหตุการณ์นั้นๆกำลังจะเกิดขึ้นกับเรา ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ไม่ได้หงุดหงิด โมโหง่าย ก้าวร้าว นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ตใจงาย ใสั่ ความดันโลหิตสูง ไม่มีสมาธิเครียดได้กับสิ่งต่างๆ รอบตัว – พยายามหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่จะส่งผลทำให้กระทบกระเทือนต่อจิตใจ เช่น ภาพข่าวเหตุการณ์การพูดถึงจากบุคคลอื่น – มีการเปลี่ยนแปลงอารมณ์ในเชิงลบ รู้สึกว่าชีวิตตัวเองหม่นหมอง ทั้งตัวเองและสิ่งรอบข้าง มีภาวะเหมือนโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรงกล่าวคือ คิดว่าตัวเองด้อยค่าคงไมมีความสุได้ีกตอไปล้ว ม่สใจกิกรรมี่เคชอบหือเยทำาก่อนอีกแล้วทำให้อาจคิดฆ่าตัวตาย หรือพึ่งสารเสพติดต่างๆ เพื่อต้องการให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นแต่จริงๆ แล้วอาจจะทำให้เกิดผลร้ายแรงยิ่งกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว
source: What Are the Differences Between PTS and PTSD? | BrainLine
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างเหตุการณ์ของทหารไทยที่ป่วยเป็นโรคนี้เมื่อปี2554 ที่เหตุการณ์เกิดถึง 3 ครั้งใน 2 เดือนครับ 30 ก.ค.2554 พลฯสรุศักดิ์บุญชูทหารเกณฑ์ซึ่งปะจำการอยู่ี่หนวยเฉาะกิยะลา 12 เกิอาการวบคุมติไม่ยู่ใชอาวุปืน M16 กราดยิงผู้บังคับบัญชายศร้อยโทเสียชีวิต หลังจากนั้นได้วิ่งไปจี้ชิงรถจักรยานยนต์ชาวบ้านและยิงชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย ตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าพลทหารมีอาการเครียดเนื่องจากแม่ป่วยหนักเมื่อทราบว่านายทหารยศร้อยโท ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาจะเดินทางไปธุระพลหารจึขอติดถมาด้ย แต่ระหว่างทางคาดว่าอาจมีปากเสียงกันทำให้พลทหารคว้าอาวุธปืนที่วางอยู่เบาะหลังรถยิงใส่ผู้บังคับบัญชา และยิงชาวบ้านเพื่อชิงรถจักรยานยนต์หลบหนี 23 ส.ค.2554 มีพลทหารถูกยิงเสียชีวิต 1 นายและบาดเจ็บ 1 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยโรงเรียนโดยทหารที่ประสบเหตุทั้ง 2 นายคือพลฯเกษมศักดิ์แดงมณีกับพลฯนิรันดร์ผลทับและเป็นเพื่อนกัพลฯเกษมศักดิ์ทั้งคู่สังกัดหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี24 มีบาดแผลถูกยิงด้วย M16 หลายนัด จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบหลักฐานว่ามีบุคคลอื่นอยู่ในละแวกดังกล่าวและหมู่บ้านที่เกิดเหตุก็ไม่ใช่พื้นที่เคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบจึงสันนิษฐานว่าทหารทั้งสองนายน่าจะยิงกันเอง
14 ก.ย.2554 ลฯรุสลามมอและอายุสังกัดหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 เิดอากาคลุ้มคั่งขณะฏิบัตหน้าท่เข้าเวร ยามอยู่ในฐานปฏิบัติการ ใช้อาวุธปืน M16 บุกยิงผู้บังคับบัญชายศพันจ่าเอกและจ่าเอกถึงในห้องทำงานทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บอีก 4 นาย ก่อนใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเองตายตาม
ปัจจุบันอาการองโรคน้อาจจะไม่รุนแรงเท่าสมัยก่อนเราจะพาคุณย้อนกลับไปยังสงครามโลกครั้งที่ 1 ครับ
หลังสงครามโลกครั้งที่1 โรงพยาบาลจิตเวชและจิตแพทย์มีบทบาทเป็นอย่างมาก เนื่องจากทหารหลายนาย ต้องเผชิญอาการ ทางจิต ที่เป็นผลมาจากความกดดันในสนามรบ ตัวสั่น สับสน ฝันร้าย ควบคุมตัวเองไม่ได้เหมือนคนเียสติโดยอาการน้ถูก เรีกว่า Shell Shock คณลองนึภาพศพ เลือด ระเบิด แขนขาขาด และความกดดันในทุกๆวินาทีว่าจะอยู่หรือตายนั่นแหละครับคือสิ่งที่ทหารวัยรุ่นคนหนึ่งจะต้องเจอและรับสภาพกับมันในตอนนั้น
source: Post war | Poderosas imágenes, Dibujos espeluznantes, Fotos espeluznantes (pinterest.com)
หลายครั้งที่ทหารหลายนายยายามหนีออกจากสมรภูมิรบแต่กลับถูกกล่าวหาว่าขี้ขลาดทิ้งเพื่อนร่วมชาติทิ้งหน้าที่บ้างถูกยิงทิ้งเนื่องจากละเมิดวินัยทหาร ้างถูกขังเดี่ยวโยที่ไม่มใครสนใจเยว่าทหรที่กำังตัสั่นเห่านี้กำังป่วยทงจิตหรืไม่ ซึ่เป็นเรืองที่โชคร้ายมากๆ เพราะกว่าจะมีผู้คนพบวิธีรักษา ก็มาค้นพบตอนที่สงครามสิ้นสุดลงแล้วโดยผู้ค้นพบอาการและวิธีรักษาคือ นพ.อาเธอร์เฮิร์ท แพทย์ประจำโรงพยาบาลกองทัพ ซึ่งเป็นแพทย์เพียงคนเดียวในตอนนั้นที่เชื่อว่าคนพวกนี้ไม่ได้ขี้ขลาดและต้องรักษาให้ถูกวิธเขารับทหารที่มีอาการนี้เข้ามารักษา แะกว่า 90% ก็กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
source: Shell shock (een oorzaak voor PTSS) (wordpress.com)
โยนายแทย์อาเธร์เฮิร์ท ด้บันทึกงในบันทึส่วนตัววา
– ผู้ป่วยบางรายจะมีอาการหลอน และจะสะดุ้งอย่างแรงทุกครั้งเมื่อได้ยินคำว่า ระเบิด! คำนี้จะทำให้พวกเขาสะดุ้งตื่นและลงไป หลบอยู่ใต้เตียง
–จากการที่เราได้สอบถามผู้ป่วย ทำให้เราได้ทราบว่านไข้ไม่ไดอยู่หน่วยน้าเสมอไ หน่วยไหๆก็สามรถเป็นกัได้ – วิธีักษาที่ดีี่สุดคือ กรสะกดจิตทให้สงบ , กาชักจูงให้คิดถึงสิ่งดีๆ, การนวดผ่อนคลาย รวมถึงการควบคุมอาหารด้วย
หลังจากเหตุการณ์นั้นจึงทำให้สภาแพทย์ต้องทำการประชุม จนได้ผลสรุปให้เรียกอาการนี้อย่างเป็นทางการ ว่า War Neurosis หรือาการทางประาทที่มีผลากสงครามัฐบาลอักฤษจึงต้อออกมาขอโทษรอบครัวของหารที่ถูกตดสิน โทษเพราะอาการ Shell Shock โดยให้เหตุผลว่าตอนนั้นเราไม่รู้นี่หน่า…
ภาวะป่วยทางจิตหลังสงครามจะมีอยู่ 3 ยุคสมัยด้วยกัน
– สงครามโลกครั้งที่ 1 เรียกว่า Shell Shock
– สงครามโลกครั้งที่ 2 เรียกว่า War Neurosis
– ปัจจุบันเรียกว่า PTSD
แล้วคนธรรมดาจะเป็นโรคนี้ได้ไหม ?
คำตอบคือ เป็นได้ครบเพราะนิยมของโรคน้คือสภาวะการป่วยทางจิตใจเมื่อเผชิญกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างร้ายแรงนั่นก็รวมไปถึง การถูกข่มขืนประสบภัยพิบัติประสบอุบัติเหตุเป็นต้นซึ่งผู้ป่วยอาจจะเป็นผู้ที่ประสบเหตุการณ์โดยตรงหรือเป็นผู้ที่ได้รับการสูญเสียจากเหตุการณ์ทางอ้อมได้ครับ
หากจะก่าวถึงการ้องกันภาวะดงกล่าวคงไม่ามารถทำได้อย่างเต็มที่เนื่องจากเป็นภาวะที่มีต้นเหตุมาจากเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้เมื่อเราผ่านเหตุการณ์ที่กระทบต่อความรู้สึกของเราอย่างรุนแรงเราจึงควรเข้าพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและขอคำปรึกษาพูดคุยกับผู้ที่สามารถรับฟังปัญหาของเราได้หากิจกรรมเพื่อบรรเทาความเครียด เป็ต้น ยิ่งเราเข้ากระบวนการรักษาเร็วเราก็มีโอกาสเป็นภาวะของโรคนี้น้อยลงามไปด้วยนั่เองครับ