เมื่อเยอรมันได้เปิดฉากรุกรานโปแลนด์ในวันที่ 1 กันยายน ค.ศ.1939 สงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ กองทัพนาซีเยอรมันที่เพียบพร้อมด้วยอาวุธที่ทันสมัยและหลักการรบที่แปลกใหม่ ได้รุกรานโปแลนด์ประเทศเพื่อนบ้านทางตะวันออกของเยอรมัน ถึงแม้ประวัติศาสตร์จะบันทึกว่า โปแลนด์ พ่ายแพ้อย่างรวดเร็ว และถูกนาซีครอบครองอยู่นานจวบจนสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่น้อยคนที่จะรู้ว่า ชาวโปล (คนโปแลนด์) นั้นมีจิตใจเป็นนักสู้เพียงใด และนี้คือเรื่องราวของเหล่านักรบโปลในการยุทธที่ วิซน่า (Battle of Wizna) เมื่อพวกเขายันกองทัพเยอรมันที่ใหญ่กว่า 40 เท่าเป็นเวลาถึง 3 วัน!!
ก่อนหน้าสงครามโลกจะระเบิดความตึงเครียดระหว่างเยอรมันและโปแลนด์นั้นได้สะสมกันมานาน ทั้งนี้โปแลนด์ได้เสริมการป้องกันให้ชายแดนตัวเอง ซึ่งบริเวณหมู่บ้าน วิซน่า นั้นเป็นชัยภูมิสำคัญที่จะป้องกันชายแดนด้านเหนือของโปแลนด์ พวกเขาได้สถาปนาแนวป้องกันยาว 9 กิโลเมตร ยาวไปตามเนินสูงริมแม่น้ำซึ่งมีหมู่บ้าน วิซน่า อยู่ตรงกลาง แต่ด้วยงบประมาณที่ไม่เพียงพอทำให้การสร้างแนวป้องกันนั้นเป็นไปอย่างจำกัด จนถึงวันที่ สงครามโลกระเบิด ในตอนนั้นป้อมปราการที่ วิซน่า นั้นมี บังเกอร์หนัก 8 บังเกอร์ ที่ก่อสร้างด้วยซีเมนต์หนา ป้อมปืนกลอีก 8 ป้อม และบังเกอร์เบาอีก 2 บังเกอร์ บังเกอร์อื่นๆยังอยู่ในสถานะกำลังก่อสร้าง แต่ทั้งนี้กำแพงบังเกอร์โดยเฉลี่ยหนา 1.5 เมตร และยังบุเกราะหนาอีก 8 นิ้ว ซึ่งทำให้ปืนใหญ่ทุกชนิดของกองทัพบกเยอรมันในตอนนั้นสามารถเจาะมันได้
สภาพบังเกอร์ของป้อมใน วิซน่า ที่ยังเหลืออยู่ในปัจจุบัน
ที่มา – https://www.warhistoryonline.com/wp-content/uploads/2019/01/pol_strekowa_gora2-768×576.jpg
นอกจากนี้ยังมีการขุดคูน้ำจำนวนมาก รวมถึงมีการวางกับระเบิดทั้งต่อต้านรถถังและบุคคลไว้รอบบริเวณป้อมปราการ รวมถึงชัยภูมิที่อยู่บนเนินทำให้ป้อมที่ วิซน่า ถึงแม้จะยังสร้างไม่เสร็จแต่ก็เป็นป้อมที่ตีหักเอาชัยยากพอสมควร ผบ.ที่คุมป้อมนี้ตอนเกิดสงครามคือผู้กอง วลอดิสราฟ ราจินิส (Wladyslaw Raginis) ซึ่งมีทหารในมือราวๆ 360 – 700 นาย เท่านั้น และมีอาวุธคือปืนต่อต้านรถถังขนาด 76 มิลลิเมตร 4 กระบอก ปืนกลหนักและเบา 42 กระบอก ไรเฟิลต่อต้านรถถัง 2 กระบอก
ผู้กอง ราจินิส ผบ.กองกำลังป้องกัน วิซน่า
ที่มา – https://www.warhistoryonline.com/wp-content/uploads/2019/01/wladyslaw_raginis.jpg
วันที่ 7 กันยายน ค.ศ.1939 หน่วยลาดตระเวน ของกองพลแพนเซอร์ที่ 10 ได้ยึดหมู่บ้านใกล้ๆกับ วิซน่า หน่วยทหารต่างๆในละแวกนี้ของโปแลนด์เริ่มถอยเนื่องจากโดนการโจมตีทางอากาศอย่างหนักของเยอรมัน แต่ก่อนล่าถอยทหารโปลได้ระเบิดสะพานข้ามแม่น้ำ นาริว ( Narew) อันเป็นสะพานข้ามแม่น้ำแห่งเดียวในละแวกนั้นทำให้ การเคลื่อนทัพของเยอรมันต้องชะงัก วันรุ่งขึ้น นายพล ไฮนทซ์ กูเดอเรียน (Heinz Guderian) ผบ.กองทัพน้อยที่ 19 ของเยอรมันได้รับผิดชอบในการบุกข้ามแม่น้ำและทะลวงแนวป้องกันของโปแลนด์ที่ วิซน่า ในเวลานั้น กูเดอเรียน มีทหารในมีราวๆ 42,000 นาย รถถัง 350 คัน ปืนใหญ่ยิงวิถีโค้ง 108 กระบอก และปืนกลอีกนับพันกระบอก หากเทียบจำนวนทหารของโปลที่อยู่ภายในป้อม วิซน่า นั้นพวกเขาเทียบไม่ติดเลยทั้งจำนวนและอาวุธ
นายพล ไฮนทซ์ กูเดอเรียน ผบ.กองทัพน้อยที่ 19 ของเยอรมัน ผู้มีฉายา บิดาแห่งยานเกราะ
วันที่ 9 กันยายน เยอรมันได้ปล่อยปลิวให้ทหารโปลในป้อมยอมจำนนและจะไว้ชีวิต แต่ก็โดนผู้กอง ราจินิส ปฏิเสธ เยอรมันโจมตีอย่างหนักทั้งปืนใหญ่และเครื่องบินทิ้งระเบิด บีบให้ปืนใหญ่โปลที่สนับสนุนอยู่แนวหลังต้องถอย พวกเยอรมันได้เริ่มโจมตีทิศเหนือของป้อม ทหารโปล 2 หมวดโดนล้อมจาก 3 ด้าน แต่พวกเขาก็สร้างความเสียหายเยอรมันได้ไม่น้อยในที่สุด ผู้หมวดของพวกเขาตัดสินใจถอยและเผาสะพานไม้ไม่ให้พวกเยอรมันข้ามมา ส่วนทางด้านใต้สถานการณ์ไม่ต่างกันพวกเยอรมันโจมตีหนักมาก แต่ทหารโปลยิงตอบโต้ออกมานอกบังเกอร์เป็นระยะ ถึงเวลา 6 โมงเย็น ทหารโปลทั้งหมดถอยออกจากแนวสนามเพลาะและแนวป้องกันรอบนอกเข้าไปหลบในบังเกอร์หมด รถถังเยอรมันสามารถเจาะทะลุแนวป้องกันแรกของโปลมาได้ แต่ทหารราบเยอรมันเสียหายหนักมากเลยไม่อาจตามรถถังมาได้
ทหารโปลต่อสู้อย่างห้าวหาญเพื่อป้องกันที่มั่น
ที่มา – https://4.bp.blogspot.com/-nQ9nLxWHOTk/WcNgk07R8OI/AAAAAAAAdfI/viF1l9gELpwa8 pQePkgWdigUceOWySqswCEwYBhgL/s400/wz2.jpg
วันที่ 10 กันยายน เยอรมันได้ล้อมกรอบ วิซน่า ได้หมด และค่อยเข้าเคลียร์ทหารโปลทีละบังเกอร์ จนเหลือ 2 บังเกอร์ สุดท้าย แต่พวกโปลยังไม่ยอมจำนน จน กูเดอเรียน เรียกร้องให้พวกยอมจำนนไม่งั้นจะต้องตายทั้งหมด แต่ ราจินิส ยังปฏิเสธ!! ทหารโปลยังสู้ต่ออย่างห้าวหาญแต่ท้ายสุดเมื่อ ราจินิส เห็นว่าสิ้นหวังเขาเลยสั่งให้ทหารที่รอดยอมจำนน แล้วเอาตัวเองกระโดดตะครุบใส่ระเบิดมือเพื่อเป็นการฆ่าตัวตาย!! ทหารโปลในป้อม วิซน่า เหลือรอดนั้นราวๆ 40 – 70 นาย ที่เหลือนั้นถูกสังหารหรือไม่ก็บาดเจ็บ ซึ่งพวกเขาพังรถถังเยอรมันไปกว่า 10 คัน รวมถึงสังหารทหารราบเยอรมันไปราวๆ 900 นาย และถึงแม้พวกเขาไม่อาจยันการรุกของเยอรมันให้เข้าสู่โปแลนด์ แต่วีรกรรมความกล้าหาญของพวกเขายังอยู่จนถึงทุกวันนี้ วงดนตรี เฮฟวี่ เมทัล สัญชาติสวีเดนอย่าง วง Sabaton ยังได้แต่งเพลงเพื่อเป็นการรำลึกถึงพวกเขา ทหารโปลที่สู้กับข้าศึกที่มากกว่า 40 เท่า!!
วงเฮฟวี่ เมทัล สัญชาติสวีเดนได้แต่เพลงรำลึกถึงพวกเขาชื่อเพลงนั้นคือ “40:1”
ที่มา – https://i.ytimg.com/vi/ivgCD31iKyg/maxresdefault.jpg
