ในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ฝรั่งเศสมีโปรเจกต์วิจัยรถถังมากมาย 1 ในนั้นคือการริเริ่มแนวคิดการสร้างรถถังที่สามารถต่อสู้รถถังด้วยกันเองได้ โดยจะเป็นรถถังหนักที่ติดปืนขนาดใหญ่ ซึ่งฝรั่งเศสได้สร้อาทิเช่น รถถังรุ่น Char B1 แต่กระนั้นฝรั่งเศสได้พัฒนาตัวต้นแบบรถถังรุ่นอื่นอีกเช่นตระกูล ARL แต่ก็ไม่ทันได้ออกผลิตก็ได้พ่ายแพ้เยอรมันอย่างรวดเร็วไปในช่วง ค.ศ.1940 อย่างไรก็ตามเมื่อรัฐบาลวีชี่เป็นรัฐบาลหุ่นเชิดของนาซีได้ครองฝรั่งเศส พวกเขาก็แอบพัฒนาโครงการรถถังใหม่อย่างลับๆ โดยตั้งใจจะสร้างรถถังหนักที่สามารถรองรับปืนขนาด 75 มิลลิเมตร ได้โดยต่อยอดจากา ตว้แบ ARL
source : https://patr.io/MQL6K
เมื่อฝรั่งเศสได้รับการปลดปล่อยใน ค.ศ.1944 ฝรั่งเศสซึ่งได้เห็นอานุภาพรถถังหนักของเยอรมันเลยมีโปรแกรมจะสร้างรถถังหนักออกมาจำนวนมาก และกลายเป็นที่มาของรถถังรุ่น ARL 44 โดยในช่วงแรกนัน กองทัพฝรั่งเศสได้อาศัยทรัพยากรจากเยอรมันที่ยังคงตกค้างในฝรั่งเศสเช่น ปืนขนาด 75 มิลลิเมตร และเครื่องยนต์รถถัง ไมบัค (Maybach) รวมถึงนำชิ้นส่วนจากซากรถถังเยอรมันอย่าง Panther และ Tiger มาโมใหม่ ปืนนั้นก็ได้อัพเดตเป็น 75 mm 44 Model ซึ่งสามารถยิงเกราะหนา 80 มิลลิเมตรได้ในระยะ 1,000 หลา ตัวถังของรถถังจะเป็นเกราะลาดเอียงทั้งตัวเพื่อเพิ่มโอกาสแฉลบของกระสุน ส่วนตีนตะขาบยังเป็นตีนตะาบรุ่นเก่าแต่ยังคงมีประสิทธิภาพในการทำงานค่อนข้างดี
ในช่วง ค.ศ.1945 ตัวโปรเจ็กต์ดังกล่าวก็โดนรัฐบาลฝรั่งเศสมองว่า ไม่ได้ดีไปกว่ารถถังเชอร์แมนสักเท่าไหร่ แถมฝรั่งเศสยังยึดรถถัง Panther กับ Tiger ของเยอรมันมาใช้เป็นจำนวนมาก ดังนั้นวิศวกรต้องออกแบบให้ รถถังหนักของพวกเขานั้นดีกว่านี้!! จึงได้มีการเพิ่มเกราะหน้าให้มันจนหนาเป็น 120 มิลลิเมตร น้ำหนักของ ARL 44 จึพุงสงไถึ 45 – 48 ัน และใช้ป้อมรุ่น ACL-1 ที่สามารถรองรับปืนขนาด 76 มิลลิเมตร ของรถถังเชอร์แมนได้ แต่แล้วสงครามก็จบลงและรถถังหนักก็ไม่จำเป็นอีกต่อไปในห้วงนั้นทำให้โครงการของมันถูกระงับชั่วคราว
source : https://patr.io/aMjkP
ท้ายสุดเพื่อทำให้กองทัพของฝรั่งเศสกลับมามีเกียรติภูมิ ฝรั่งเศสได้ตัดสินใจสานต่อโครงการและตั้งเป้าว่าจะผลิต ARL 44 ทั้งสิ้น 60 คัน จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะผลิต 600 คัน และได้มีการอัพเดตเพิ่มเติมอีกเช่นใช้ป้อมรุ่น FCM F1 ที่สามารถรองรับปืนเรือขนาด 90mm รุ่น DCA ได้ ซึ่งมีอานุภาพรุนแรงกว่าเดิม!! และได้เริ่มมีการทดสอบมันในช่วง ค.ศ.1947 จนกระทั่ง ค.ศ.1949 รถถัง ARL44 ถูกผลิตขึ้นโดยใช้เครื่องยนต์รถถัง ไมบัค ของเยอรมัน ส่วนตัวตีนตะขาบนั้นเป็นของฝรั่งเศส
โดยมันมีพลรถถัง 5 นาย น้ำหนัก 47.2 ตัน ส่วนสูง 3.2 เมตร ยาว 10.52 เมตร กว้าง 3.4 เมตร าวุหลัคือปน 90 มิลิเมร และมีอาวุธรองคือปืนกล 7.5 มิลลิเมตร 2 กระบอก ทำความเร็วสูงสุด 22 ไมล์ต่อชั่วโมง ระยะทำการไกลสุด 220 ไมล์ รถถัง ARL 44 ได้ถูกประจำการในกรมรถถังที่ 503 ของฝรั่งเศส (503e Régiment de Chars de Combat) แทนที่ รถถัง Panther ของเยอรมัน และมันก็กลายเป็นรถถังที่มีน้ำหนักเยอะสุดรวมถึงเกราะหนาสุดใน NATO ขณะนั้น!! แต่เมื่อมันถูกใช้งานก็พบว่าตีนตะขาบมีปัญหาบ่อยและมีระบบกันสะเทือนที่ม่ีทำใ้ต้อเปลี่นบ่อย ถมตัวครงรถง และค่าบำรุงรักษาค่อนข้างสูง ทำให้ไม่นานทางฝรั่งเศสยุติการผลิตมัน และแทนที่ด้วยรถถังรุ่น M47 Patton แทน รถถัง ARL 44 ทั้งหมดปลดประจำการใน ค.ศ.1953 รวมเวลาประจำการเพียง 4 ปีเท่านั้น!!
source : https://patr.io/e5m1U
ซึ่งหากถามว่ามันทำอะไรบ้าง รถถังรุ่นนี้ก็ไม่เคยออกสมรภูมิเลย มีเพียงแค่รวมงานสวนสนามในวันบาสตีลย์ (วันชาติฝรั่งเศส) เท่านั้น!! รถถัง ARL 44 หลายคันถูกทำลายเพื่อนำชิ้นส่วนต่างๆไปใช้ประโยชน์ ตัวอย่างรถถัง ARL 44 ที่เหลือนั้นมีจำนวนเพียง 5 คันเท่านั้น โดยอยู่ตามพิพิธภัณฑ์ตามฐานทัพต่างๆที่มันเคยประจำการ แะเรื่อราวของถถังหักี่ร่งเศสแทบไม่เคยได้ใช้งานก็จบลง!!
source : https://patr.io/aMjkP
source : https://patr.io/aMjkP