สงครามในมุมมองยุคปัจจุบันนั้นเป็นสิ่งที่เลวร้ายก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง ไม่ว่าจะทั้งบุคลากร และ ทรัพยากร แต่หากย้อนไปสักเมื่อ 100 ปีก่อนมุมมองของสงครามอาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้นมันคือเรื่อง ของความรักชาติ เกียรติยศ รวมถึงศักดิ์ศรีของความเป็นชาย ซึ่งมุมของดังกล่าวเริ่มถูกเปลี่ยนไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่ง สงครามก่อให้เกิดความวินาศสันตะโรแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งมุมมองความโหดร้ายของสงครามนั้นถูกนำเสนอเป็นนิยาย โดย เอริช มาเรีย เรอมาร์ค (Erich Maria Remarque) ทหารผ่านศึกในสงครามโลกครั้งที่ 1 ชื่อว่า “Im Westen nichts Neues” ในภาษาอังกฤษ “ All Quiet on the Western Front” หรือแปลเป็นไทยคือ แนวรบตะวันตก เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งมันก็ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ถึง 3 ฉบับด้วยกันโดย ฉบับล่าสุดนั้นก็พึ่งฉายไปเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ.2022 ผ่านทาง Netflix ภาพยนตร์ “All Quiet on the Western Front” นั้นเรียกได้ว่าได้รับผลตอบรับที่ค่อนข้างดี เป็นอีก 1 ภาพยนตร์ที่นำเสนอออกมาได้ดี คำวิจารณ์ค่อนข้างดี ควรค่าแก่การดู ทั้งนี้อาจจะมีการดัดแปลงเนื้อหาจากนิยายไปบ้าง ซึ่งจะนำมากล่าวโดยย่อในบทความนี้
All Quiet on the Western Front ฉบับนิยาย
ที่มา – https://m.media-amazon.com/images/I/51UVVOhk1sL._AC_SY780_.jpg
นิยายนำเสนอผ่าน เด็กหนุ่มวัย 20 ชื่อ พอล เบาเมอร์ (Paul Baumer) เขาและเพื่อนๆได้รับสมัครเป็นทหารเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยถูกหล่อหลอมให้เชื่อในอุดมการณ์รักชาติ ภาพวาดในสนามรบของพวกเขาคือสนามแห่งเกียรติยศ จนกระทั่งพวกเขาถูกส่งไปแนวหน้าแนวคิดเลยเริ่มเปลี่ยนไป แคมเมอร์ริช (Kemmerich) เพื่อนร่วมชั้นของเขาได้รับบาดเจ็บจนต้องโดนตัดขาทิ้ง เพื่อนของเขาพากันไปเยี่ยม แคมเมอร์ริช ที่โรงพยาบาลและพบว่าเขาไม่น่าจะรอด แต่ก็มีเพื่อนคนหนึ่งชื่อ มุลเลอร์ ดันไปร้องขอเท้าบูทของ แคมเมอร์ริช ทั้งๆที่เขาเองก็ยังไม่ตาย ท้ายสุด พอล ซึ่งเฝ้า แคมเมอร์ริช อยู่เพียงลำพังและ แคมเมอร์ริช ก็ตายต่อหน้าต่อตาเขา พอล เรียกหมอมาให้ช่วย แต่หมอไม่ได้ช่วยอะไรมากเพียงแค่เคลียร์ศพของ แคมเมอร์ริช ออกอย่างรวดเร็ว เพื่อให้คนบาดเจ็บคนต่อไปมานอนต่อ แคมเมอร์ริช ถือว่าเป็นผู้เสียชีวิตคนที่ 17 ในวันนั้น
All Quiet on the Western Front ฉบับภาพยนตร์ ค.ศ.1979
ที่มา – https://m.media-amazon.com/images/M/MV5BYzI1ZTZiOGUtMjJjZS00NDlmLTl mNjAtNzA5ZWEzZTFmMTY4XkEyXkFqcGdeQXVyMjUyNDk2ODc@._V1_.jpg
บางเหตุการณ์ พอล และเพื่อนๆหิวมาก เพื่อนของเขาคนหนึ่งคือ แคทซินสกี้ (Katczinsky) หรือ แคท ขโมยขนมปัง 2 ก้อน และเนื้อมาดิบ ซึ่ง แคทจะเก่งเรื่องการหาอาหารมาก หลังจากหมดช่วงที่กรมทหารของเขาพัก พวกเขาก็ถูกส่งไปยังแนวหน้าซึ่งเป็นแนวรบสนามเพลาะ เสียงระเบิดปืนใหญ่ดังไปทั่ว พอล ได้ยินเสียงม้าร้องโหยหวนจากการบาดเจ็บพวกมันบางตัวถูกฉีกเป็นชิ้นๆจากแรงระเบิด ไม่นานนักนอกจากระเบิดแล้วฝ่ายฝรั่งเศสเริ่มยิงแก๊สพิษเข้าใส่สนามเพลาะ ทำให้ทหารจำนวนมากบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก แต่การสู้รบยังคงดำเนินต่อไป
กระทั่ง พอล ได้รับอนุญาตให้ลาพักได้ 17 วัน เขากลับเยอรมันไปและพบว่าแม่ของตนเป็นมะเร็ง ในตอนนี้ พอล เริ่มสับสนในตนเองว่าชีวิตของเขาจะดำเนินต่อไป เขายังไปคุยกับแม่ แคมเมอร์ริช ซึ่งการสนทนาเป็นไปได้อย่างยากลำบากเพราะพอลต้องบอกเธอว่าลูกของเธอตายแล้ว พอลนั้นได้ผ่านประสบการณ์อันโหดร้ายสงครามซึ่งเขาได้เติบโตขึ้นท่ามกลางไฟสงครามนี้และได้มองโลกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม สงครามก็ยังไม่จบ พอล ถูกส่งไปยังแคมป์ฝึก 4 สัปดาห์ ก่อนจะถูกส่งไปแนวหน้าอีกครั้ง พอลได้รับเครื่องแบบใหม่ และหน่วยของเขาก็ได้รับการตรวจเยี่ยมจาก ไกเซอร์ จักรพรรดิแห่งเยอรมัน
All Quiet on the Western Front ฉบับภาพยนตร์ ค.ศ.2022
ที่มา -https://dnm.nflximg.net/api/v6/2DuQlx0fM4wd1nzqm5BFBi6ILa8/AAAAQ Z1DpwYpYFoFWUpccxTLteahKhvMlitsT130l7nRee1fnHWXxgk3l8duqgREG2VZzxkksU35o4XKuCErGDeK94MHoA13O7hemN5Fror2ErJhiGmBSDbxd96vk4vxO2-ElTP0bceH985059I_hzpB5KWe.jpg?r=82c
มีอยู่คืนหนึ่งในการสู้รบเขาพลัดหลงในยามกลางคืนและซ่อนตัวในหลุมระเบิดขนาดใหญ่ และก็บังเอิญมีทหารฝรั่งเศสนายหนึ่งร่วงมาในหลุมนี้ด้วย พอล แทงเขาด้วยมีด จนบาดเจ็บสาหัสร้องโอดโอยแต่ทหารนายนั้นก็ยังไม่ตายทันที พอล รู้สึกสงสารและพยายามช่วยเหลือทหารนายนั้นโดยการทำแผลและให้น้ำเขาดื่มอย่างไรก็ตามก็ไม่สามารถยื้อชีวิตทหารฝรั่งเศสได้เขาเสียชีวิตในเวลาต่อมา พอล ได้ค้นศพของเขาดูและพบกับรูปภรรยาและลูกของทหารฝรั่งเศส ทำให้พอลรู้สึกผิดที่ต้องพรากชีวิตพ่อคนไป พอล กลับไปหาเพื่อนได้ และพบว่าพวกเขากำลังเฝ้าหมู่บ้านหนึ่งและกำลังทำหน้าที่อพยพคนอยู่ แต่ในระหว่างกำลังอพยพคน ทหารฝรั่งเศสก็โจมตี ทำให้ เพื่อนของเขาบาดเจ็บล้มตายไปทีละคน จนท้ายสุดเหลือแค่ แคท เพียงคนเดียว แคท ได้รับบาดเจ็บสาหัส และ พอล ก็แบกเขาขึ้นบ่า พาไปส่งถึงแนวหลังแต่ก็พบว่า แคท เสียชีวิตแล้ว เขาคือคนสุดท้ายในหมู่เพื่อนที่รอดชีวิต!! อย่างไรก็ตามนิยายตัดจบไปและบรรยายว่า พอล นั้นก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา
พอลพยายามรักษาทหารฝรั่งเศสที่เขาแทงจนได้รับบาดเจ็บ
ที่มา – https://cdn.britannica.com/08/90508-050-C3830B18/All-Quiet-on-the-Western-Front-Lew.jpg
สำหรับตัวผู้เขียนอย่าง เรอมาร์ค ก็ไม่ได้มีประสบการณ์ต่างจากพอลมากนั้น เขาถูกเกณฑ์เป็นทหารในอายุ 18 ปี ซึ่งเขาคือเด็กหนุ่มที่เติบโตท่ามกลางสภาวะสงคราม อันโหดร้าย เขาเลยถ่ายทอดประสบการณ์ต่างๆผ่านนิยาย ในมุมมองของ พอล เด็กหนุ่มที่เติบโตในสงครามไม่ต่างจากเขา ซึ่งมันก็กลายเป็นไอคอนของเยอรมันในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ใช้สำหรับการต่อต้านสงครามในที่สุด
