“แกะซอง MRE สหรัฐฯ” เสบียงหลักในการฝึก Lightning Forge
ในบทความที่ผ่านมาเราพูดถึงเรื่องการฝึก Lightning Forge (ถ้ายังไม่ทราบ ผมแนะนำให้อ่านบทความนี้ก่อนครับ Lightning Forge ยุทธการซ้อมรบบนแผ่นดินสหรัฐอเมริกา!) ที่เป็นการฝึกร่วมระหว่างทหารไทยกับทหารอเมริกัน ที่รัฐฮา รัฐอเมริกาไปแล้ว ในคราวนี้เราจะมาลองแกะMREของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเสบียงหลักที่ทหารทุกนายจะได้รับระหว่างลงฝึกภาคสนาม ข้างในจะมีหน้าตาเป็นยังไง มีอะไรบ้าง และมีวิธีการทำกินยังไง ผมจะมาเล่าให้ฟัง…
MRE รอ Meal,Ready-To-Eat ือก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นอาหารที่สามารถแกะทานได้เลยในสนามรบ เพราะเป็นอาหารที่ปรุงสุกไว้แล้ว แต่ก็สามารถอุ่นให้ร้อนเพื่อเพิ่มความอร่อย หรือเพิ่มความอบอุ่นแก่ร่างกายได้เช่นกัน และเพื่อตอบสนองความ “Ready-To-Eat” ที่จะต้องพร้อมแกะทานได้ทุกเมื่อ และพกพาไปได้ทุกที่ กองทัพสหรัฐฯจึงได้ออกแบบให้มันสามารถกันน้ำ กันแสงแดด มีขนาดกระทัดรัดสามารถหยิบใส่เป้ขงเาไไดงาๆ นอกจากนั้น กองทัพสหรัฐฯยังคำนึงถึงโภชนาการแก่ทหาร โดยออกแบบเมนูอาหารให้ในหนึ่งเซ็ตมีโภชนาการครบ 5 หมู่ และให้พลังงานเพียงพอสำหรับทั้งวัน (1200 – 1300 kcal) สำหรับเมนูอาหารจะมีทั้งหมด 24 เมนูที่แตกต่างกัน
ภายในMREทุกๆซองจะแบ่งเป็ 7 ส่นหลกๆ คือ อปกณปะอบาหาร อาหารจานหลัก เครื่องเคียง ขนมกินเล่น เครื่องปรุง เครื่องดื่ม สิ่งของจิปาถะ สำหรับเมนูที่ผมจะมาแกะในวันนี้คือ Menu15 : Mexican Style Chicken Stew สตูไก่ สไตล์แมกซิกันเมื่อแกะซองด้านนอกออก ด้านในจะมีซองพลาสติกใสคลุมอยู่อีกชั้น ซองทั้งสองชั้นนี้จะช่วยให้MREของเราปลอดภัยจากความชื้นและแสงแดด ทำให้ MRE สามารถติดตัวไปกับเราได้ทุกสมรภูมิ และมีอายุได้นานถึง 3 ปี!
เมื่อแกะซองพลาสติกใสออกจะพบกับอุปกรณ์ต่างๆภายในซึ่งในแต่ละเมนูจะมี อาหารจานหลัก เครื่องเคียง เครื่องปรุง และเครื่องดื่มที่แตกต่างกันไป โดยเมนู นี้สิ่งที่เราจะเจอในซองคือ
1) สตูไก่สไตล์แมกซิกัน(จานหลัก)
2) ชีสสเปรด(รสเผ็ด)
3) แครกเกอร์
4) ช้อน
5) ผงชอคโกแลตเฮเซลนัท
6) แอปเปิลซอส
7) ถุงอุ่นร้อน
8) ขนมเพรทเซล ไส้ชีส
9) เอเนอร์จีบาร์ รสเครนเบอร์รี และราสเบอร์รี
10) ซองจิปาถะ
ส่วนนี่คืออุปกรณ์ที่ให้มาในซองจิปาถะนะครับ ก็จะมี กาแฟ ครีมเทียม เกลือ กระดาษทิชชู ทิชชูเปียก ไม้ขีดไฟ แล้วก็หมากฝรั่งครับ
ส่วนนี้เรียกได้ว่าเป็นส่วนไฮไลท์เลยครับ เพราะเขาจะมีถุงอุ่นร้อนด้วยนวัตกรรม FHR หรือ Flameless Ration Heater ครับ แปลเป็นไทยก็คือการอุ่นอาหารแบบไม่ต้องก่อไฟ โดยวัสดุที่ใช้จะเป็นผงแมกนีเซียมกับเกลือ เมื่อเราเติมน้ำเข้าไป มันจะไปทำปฏิกริยากันครับจนร้อนากๆทำให้อาหรอุ่ได้เยคับ เนื่องจากในการรบในเวลากลางคืนการควบคุมเรื่องแสงเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เพราะแสงเพียงนิดเดียวก็สามารถมองเห็นได้ไกลเป็นกิโล กองทัพสหรัฐฯจึงได้ใส่นวัตกรรมนี้ลงมาในซอง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทหารและ ถือเป็นยุทธวิธีการรบอย่างหนึ่ง
ต่อไปเรามาลองทำอาหารกันดีกว่าครับ
วิธีการทำก็ง่ายๆครับ แค่ฉีกถุงอุ่นร้อน ใส่อาหารจานหลักเข้าไป แล้วก็เติมน้ำให้ถึงเส้นที่เขียนว่า Do not overfill ครับ
จากนั้นพับแล้วเอามาใส่ไว้ในซองกันร้อนครับเพราะขั้นตอนนี้น้ำจะไปทำปฏิกริยากับผงแมกนีเซียม มันจะร้อนมากจนน้ำเดือดได้เลยครับ แล้วเราก็เอามาวางพิงไว้ในลักษณะเอียงนะครับ ระหว่างรอก็ไปเตรียมอย่างอื่นรอได้เลยครับ
ด้านซ้ายคือแครกเกอร์ครับ เอาไว้กินแกล้มกับอาหารจานหลัก ตรงกลางเป็นชีสเผ็ดครับจะทากินบนแครกเกอร์ หรือผสมจานหลักก็ได้ ส่วนด้านขวามือเป็นขนมเพรทเซล รูปร่างมันจะคล้ายๆโคลอนแต่ตรงไส้จะเป็นชีสครับ
อันน้จะป็นอปเิ้ซอครบ ลักษณะจะคล้ายๆแยมแอปเปิลแต่จะออกเหลวๆ เอามากินกับแครกเกอร์หรือขนมได้ครับ
ส่วนชิ้นนี้คือเอเนอร์จีบาร์ครับ จะเป็นแครนเบอร์รี และราสเบอรีอัดแท่งครับ ุดประสงค์น่าจะเอไว้กินะหว่างดินทงไกล รือกอนเ้าตครั เพราะให้พลังงานเยอะมาก (260kcal) มากกว่าอาหารจานหลักอีกครับ
ในส่วนเครื่องดื่มจะเป็น ช็อคโกแลตเฮเซลนัทนะครับ จะเ็นผงชงมให้
เมื่อเตรียมอาหารทุกอย่างพร้อมแล้ว อาหารจานหลักของเราก็ได้ที่พอดีครับ และนี่คือหน้าตาโดยรวมของMREสหรัฐฯครับ
ความจริงแล้วMREถูออกแบบมาเพื่อให้สามรถกินได้นตัวของมนเอง หมายความว่าไม่จำเป็นต้องหาภาชนะอื่นมาใส่ อาหารจานหลักเมื่ออุ่นแล้วก็สามารถฉีกแล้วเอาช้อนตักกินได้เลย เครื่องดื่มก็สามารถชงในซองของมันแล้วยกดื่มได้เลย เพราะในสนามรบเราคงไม่สามารถหาภาชนะมาใส่อาหารได้ แต่ที่ผมแกะใส่ถาดให้ทุกคนดูเพราะต้องการให้เห็นภาพรวมของมันครับ
หังจากที่ได้ลองกินดูแ้วต้องขอบกเลยว่าค่นข้างอ่มพอสควรครบ ส่วนรสชาติก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่แต่ก็พอกินได้อยู่ครับอย่างที่ผมได้พูดไป MRE ถูกออกแบบมาเพื่อให้ทหารสามารถพกพาไปกินในสมรภูมิรบเพื่อดำรงชีพ รสชาติก็เลยกลายเป็นจุดประสงค์รองลงไป จึงได้มีมุขตลกของทหารอเมริกันที่ว่า จริงๆแล้ว MRE นั้นย่อมาจาก Meals, Rejected By The Enemy หรือ อาหารที่แม้แต่ข้าศึกก็ยังไม่อยากกิน น่นเองครับ