ก่อนที่จะเข้าเรื่องกฏ 40% ตามหัวข้อของบทความ เราอยากให้คุณลองตอบคำถามสัก 2-3 ข้อต่อไปนี้
1. คุณสามารถดีงข้อได้กี่ครั้ง ?
2. คุณสามารถดึงข้อ 100 ครั้งได้มั้ย ?
3. ถ้าให้คุณดึงข้อทีละ 5 ครั้ง (จะมากกว่าหรือน้อยกว่านั้นก็ได้) จนครบ 100 ครั้ง คุณจะทำได้มั้ย ?
ทีนี้หากได้คำตอบของคุณแล้ว ลองมาดูกันครับว่า คำตอบที่ได้ตรงกับทหารจากหน่วยรบพิเศษอีก 500 คนหรือไม่
1. จำนรั้งที่ต่ำสุดอยู่ที่ 15 ครั้ง สูงสุด 25 ครั้ง
2. 500 คน ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “ทำไม่ได้”
3. จำนวน 492 คือตัวเลขของคนที่ตอบว่า “ทำได้” ส่วนอีก 8 คนตอบว่า “อาจจะทำได้” ไม่มีใครเลยที่ตอบว่า “ทำไม่ได้”
สงสัยมั้ยครับว่าทำไม ผลลัพธ์ระหว่างข้อ 2 และ ข้อ 3 จึงมีความแตกต่างกันเยอะมาก
ตัวอย่างการทดสอบนี้สามารถเชื่อมโยงไปถึง กฏ 40% ที่ทหารในหน่วย SEAL ของสหรัฐอเมริกายึดถือเป็นหลักในการฝึกจิตใจให้แข็งแกร่ง เพื่อรับการฝึกที่หนักหน่วงเหนือมนุษย์ธรรมดา
หลักการนี้ถูกเปิดเผยโดยชายที่ชื่อว่า Jesse Itzler (นักธุรกิจผู้ร่วมก่อตั้งธุรกิจเครื่องบิน Jet ส่วนตัว) ซึ่งคนที่สอนให้เขารู้จักกับหลักการนี้ คือ David Goggins อดีตทหาร จาก หน่วย SEAL ของสหรัฐอเมริกา
ทั้งคู่รู้จักกันครั้งแรกตอนที่แข่งวิ่ง Ultramarathons 100 ไมล์ (รายการวิ่งระยะ 160 กิโลเมตร) และ Itzler รู้สึกทึ่งในตัวของ Goggins เป็นอย่างมาก
เนื่องจากในขณะนั้นเขามีน้ำหนักประมาณ 260 ปอนด์ ซึ่งจริงๆถือว่าใหญ่เกินไปสำหรับการวิงแบบนี้ด้วยซ้ำ แต่เขาก็ยังวิ่งจนสามารถเข้าเส้นชัยได้สำเร็จ และที่น่าทึ่งกว่านั้นคือ Goggins เข้าเส้นชัยทั้งๆที่กระดูกเท้าของเขาแตกทั้ง 2 ข้าง
หลังจากงานวิ่งจบลง Itzler สงสัยว่าเขาเอาพลงกายและพลังใจแบบนั้นมาจากไหนกัน Itzler จึงจ้าง Goggins ให้ช่วยสอนเขาถึงวิธีการฝึกเพิ่มความแข็งแกร่งของจิตใจแบบส่วนตัว และแน่นอนเขาสอน Itzler เกี่ยวกับหลักการของกฏ 40% เขาเริ่มต้นสอน Itzler ด้วยการโดนถามคำถามเดียวกันกับที่เราเพิ่งถามคุณไปเมื่อตอนต้นของบทความ
Goggins : คุณสามารถดึงข้อได้กี่ครัง ?
Itzler : ประมาณ 8
Goggins : โอเค งั้นเริ่มเลย
หลังจาก 8 ครั้งแรกผ่านไป Goggins บอกให้เขาพัก 30 วินาที จากนั้นให้ ทำ – และพัก – ทำ – และพัก – และทำ ต่อไปจนกว่าจะครบ 100 ครั้ง Itzler ปฏิเสธทันที เขาไม่มีทางทำได้แต่หลังจากที่ Goggins ใช้จิตวิทยาในการกระตุ้น และให้กำลังใจ ผลปรากฏว่าเขาทำได้จนครบ 100 ครั้งจริๆ
“นั่นสะท้อนให้เห็นว่าโดยปกติเรามักจะประเมินตนเองต่ำกว่าความเป็นจริงไปจริงๆ และสร้างกำแพงที่เรียกว่า “ขีดจำกัด” ขึ้นมา ทั้งที่ยังไม่ได้ลองทำ เมื่อใจของคุณสั่งให้ร่างกายของคุณหยุด คุณมักจะคิดว่าทำต่อไม่ไหวแล้ว ทั้งที่จริงแล้วเราใช้พลังไปเพีย 40% เท่านั้น” Goggins กล่าว
แต่ว่าจริงๆแล้วกฏ 40% สามารถใช้ได้จริง ?
หรือเป็นเพียงหลักการที่อุปโลกขึ้นมาเพื่อเป็นแรงผลักดันทางจิตวิทยาเท่านั้น ในปี 2008 มีการศึกษาวิจัยเรื่องที่คล้ายกันนี้ โดยในการวิจัยนั้น ได้แบ่งกลุ่มคนออกเป็น 2 กลุ่ม กุ่มที่ 1 คือ กลุ่มที่ได้รับยาหลอกว่าเป็นคาเฟอีน กล่มี 2 คือกลุ่มคนที่ได้รับคาเฟอีนจริงๆ แล้วให้คน 2 กลุ่มนี้แข่งกันยกย้ำหนักผลปรากฏว่า กลุ่มคนที่ได้รับยาหลอกสามารถยกน้ำหนักได้มากกว่า กลุ่มคนที่ได้รับคาเฟอีนจริงๆ
No limit พลังใจ สำคัญกว่า พลังกาย ?
ผลจากการวิจัย แสดงออกมแล้ว่พลังใจเป็นส่วนสำคัญหลักในการขับเคลื่อนพลังกาย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าร่างกายและจิตใจของคนเราไม่มีขีดจำกัด เพียงแต่ขอบเขตเหล่านั้นต้องได้รับการขยายออกไป บ่อยครั้งที่ตัวเราเองเป็นคนจำกัดขีดความสามารถของตนเอง จนพลาดโอกาสหลายอย่างในชีวิต
เรื่องราวของ Itzler กับ กฏ 40% และความสามารถเหนือมนุษย์มากมยของน่ว SEAL สหรัฐอเมริกา จึงเป็นข้อพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่า เราทุกคนก็สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดเหล่านี้ได้ เพียงแต่ในครั้งต่อไป คุณต้องไม่หยุดอยู่ที่ 40%