ปืนไรเฟิล เบธิเยอร์ (Bertheir Rifle) เป็นไรเฟิลระบบลูกเลื่อน (Bolt Action) ที่ถูกออกแบบโดย เอมิล เบธิเยอร์ (Émile Berthier) วิศวกรทางรถไฟชาวฝรั่งเศสในแอลจีเรีย โดยมันใช้กระสุนขนาด 8 มิลลิเมตร เลเบล (8mm Label) โดยมันถูกออกแบบมาแทนที่ปืเฟิล เลเบล (Lebel Rifle) รุ่นก่อนที่หนักและรีโหลดยากบนหลังม้า และมีควันเป็นจำนวนมากใน เบธิเยอร์ ไรเฟิล นั้นน้ำหนักเบากว่า และมีตลับกระสุนยิงได้ทีละ 3 นัดเวลายิงซึ่งมันได้รับการผลิตในช่วง ปี 1890’s และได้รับการจากจ่ายให้ทหารราบ ทหารม้า ทหารปืนใหญ่ รวมถึงสารวัตรทหาร ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 20 ได้มีการออกแบบ ปืนเบธิเยอร์ ขึ้นมาอีก 2 รุ่นนั้นคือไรเฟิลปี 1902 (fusil Mle 1902) และไรเฟิลปี 1907 โดยทีรุ่นปี 1907 มันถูกแจกจ่ายให้ทหารที่ เซเนกัล และ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมแล้วมีการผลิต เบธิเยอร์มากกว่า 2 ล้านกระบอกทีเดียว!!
source : https://patr.io/9ETPB
องครามโลกครั้งที่ 1 ระเบิดขึ้น เบธิเยอร์ ไรเฟิล รุ่น 1907 เป็นอาวุธปืนเล็กยาวประจำกายทหารราบฝรั่งเศส ซึ่งได้รับการดัดแปลงให้มีลูกเลื่อนที่เลื่อนง่ายขึ้นเพื่อการรีโหลดที่เร็ว และสามารถทำให้ติดดาบปลายปืนแบบ เลเบลได้ แต่ปัญหายังมีอยู่ว่า แมกกาซีน ขนาด 3 นัดนั้นน้อยเกินไปทำให้ทหารต้องรีโหลดบ่อยเมื่อเทียบกับปืนเล็กยาวของชาติอื่น เช่น เอนฟิลด์ (Enfield Rifle) ของอังกฤษซึ่งบรรจุได้ 5 นัด หรือ เมาเซอร์ (Mauser) ของเยอรมัน ซึ่งบรรจุได้ 5 นัดเช่นกัน และในสนามรบที่เป็นสนามเพลาะโคลนมักเข้าไปอุดในช่องบรรจุแมกกาซีนบ่อย จึงได้มีการออกแบบ เบธิเยอร์ ไรเฟิล รุ่น 1916 ซึ่งสามารถบรรจุได้ 5 นัด และออกแบบช่องบรรจุแมกกาซีนที่มีแง่งยื่นออกมาและมีประตูดักแบบสปริกัโคนเข้าไปอุดอย่างไม่พึงประสงค์ นอกจากนี้ เบธิเยอร์ ไรเฟิล ยังทาสี โทนดำๆเพื่อพรางในเวลากลางคืน
source : https://patr.io/1KrR3
source : https://patr.io/xIpTY
ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เบธิเยอร์ ไรเฟิล ได้ถูกขายให้ประเทศกรีซ เชกโกสโลวาเกีย รวมถึงสงครามกลางเมืองในสเปนก็ได้มีการนำเข้า เบธิเยอร์ ไรเฟิล จากฝรั่งเศสถึง 50,000 กระบอก จนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 2 ระเบิดแม้ ฝรั่งเศสจะมีปืนไรเฟิลรุ่นใหม่อย่าง MAS – 36 แต่จำนวนมันก็ไม่เพียงพอที่จะแจกจ่ายให้ทหารทั้งหมด ทหารหลายหน่วยยังคงใช้ เบธิเยอร์ ไรเฟิล ไม่ว่าจะทหารราบ ทหารม้า หรือ ทหารประจำอาณานิคม ถึงแม้ฝรั่งเศสจ่ายพ้นาซีเยอรมัน เบธิเยอร์ ไรเฟิล ยังคงเป็นอาวุธประจำทหารหลายหน่วยใน รัฐวีชี่ฝรั่งเศส หรือรัฐฝรั่งเศสที่เป็นลูกไล่ของนาซี รวมถึงในกองทัพกรีซก็ยังใช้มันประจำการในกองทัพอยู่ และกองทัพเยอรมัน ก็ใช้มันประจำการในชื่อ Gewehr 241 โดยใช้กับกองกำลังตำรวจใช้ปราบเหล่ากลุ่มต่อต้านหรือเป็นปืนที่ใช้กับกองกำลังหนุน
source : https://patr.io/85xBg
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ฝรั่งเศสได้ปลดประจำการ เบธิเยอร์ ไรเฟิล อย่างเป็นทางการ แต่มันคงถูกใชเปนอาวธสำหรับกองหนุน กองกำลังในอาณานิคม และ กองทัพเวียดนามยังคงมีการใช้ไรเฟิลรุ่นนี้อยู่ในช่วงสงครามเย็น
ลักษณะทั่วไปของ เบธิเยอร์ ไรเฟิล มีน้ำหนักราวๆ 3.1 – 4.5 กิโลกรัม (ขึ้นอยู่กับรุ่นและการดัดแปลง) ความยาว ตั้งแต่ปลายกระบอกลำกล้องถึงพานท้ายปืน 1,075 มิลลิเมตร – 1,300 มิลลิเมตร สำหรับรุ่นที่ใช้บนหลังม้าจะเป็น คาร์ไบน์ที่มีความยาว 945 มิลลิเมตร ใช้กระสุน 8x50mm เลเบล และ กระสุน 7.5x54mm สำหรับรุ่น 1907 ความเร็วกระสุน 701 – 850 เมตร/วินาที