X

สงครามเพสตรี้ สงครามที่เกิดจากขนม

แป้งเพสตรี้ เป็นแป้งชนิดหนึ่งที่ไว้ทำขนมประกอบด้วย น้ำตาล เนย นมหรือไข่ ซึ่งจะหวานกว่าแป้งทั่วไป เหมาะไว้สำหรับทำขนม แต่รู้ไหมว่า เจ้าเพสตรี้นั้นเคยทำให้เกิดสงครามมาแล้วในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที 19 โดยสงครามนี้จะมีชื่อว่า สงครามเพสตรี้!!! อันเป็นความขัดแย้งระหว่างฝรั่งเศสกับเม็กซิโก สำหรับรายละเอียดนั้นมีอะไรบ้างเดี๋ยวมาเล่าให้ฟังครับ

แป้งเพสตรี้เอาไว้ทำขนมพาย

source : https://patr.io/ZIAUx

ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 เม็กซิโกเพิ่งได้รับเอกราชจากสเปน เม็กซิโกตกอยู่ในสภาพสงครามกลางเมืองและความวุ่นวาย ประชาชนต่างได้รับเดือดร้อน แต่ในแง่การเมืองต่างประเทศเม็กซิโกได้พยายามสานสัมพันธ์และติดต่อกับชาติมหาอำนาจในยุโรปตลอด เม็กซิโกยังคงเป็นพันธมิตรกับสเปนเจ้าอาณานิคมเก่ารวมถึงติดต่อฝรั่งเศสซึ่งเป็นมหาอำนาจของยุโรป ในห้วงนั้นฝรั่งเศสยังม่อมรับว่าเม็กซิโกเป็นประเทศเอกราช แต่ทั้ง 2 ประเทศยังค้าขายกันตลอด จนกระทั่งราชวงศ์บูร์บองถูกโค่นล้มใน ค.ศ.1830 รัฐบาลฝรั่งเศสใหม่ภายใต้ ราชวงศ์ออร์เลอองส์ ของพระเจ้าหลุยส์ฟิลิปเป้ แห่งฝรั่งเศสได้รองรับเอกราชของเม็กซิโกและฝรั่งเศสได้กลายเป็นคู่ค่าที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเม็กซิโก และชาวฝรั่งเศสไปอาศัยในเม็กซิโกเพื่อทำธุรกิจเป็นจำนวนมาก

คราวนี้เลยเกิดเรื่องขึ้นเมื่อ สงครามกลางเมืองในเม็กซิโกซิตี้ ได้ทำให้ ร้านขายเบเกอรี่ของเชฟเพสตรี้ ชาวฝรั่งเศสชื่อ เรอมองตัวร์ (Remontel) เสียหาย ใน ค.ศ.1828 แต่ไม่ใช่แค่ร้านของ เรอมองตัวร์ คนเดียวย่านชุมชนฝรั่งเศสต่างได้รับความเสียหายจากการปะทะกันครั้งนั้น ในตอนแรก เรอมองตัวร์ ได้ยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาลเม็กซิโกให้จ่ายเงินชดเชยให้เขาเป็นจนวน 60,000 เปโซ ทั้งๆที่จริงร้านของเขามีมูลค่าแค่ 1,000 เปโซ เท่านั้น รัฐบาลเม็กซิโก ปฏิเสธที่จะจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้กับ เรอมองตัวร์ แต่เชฟหัวร้อนผู้นี้ยังไม่ยอมแพ้เขาเลยยื่นคำร้องขอไปที่รัฐบาลฝรั่งเศสเผื่อจะได้รับการช่วยเหลือ เรื่องนี้เป็นที่สนใจจากพระเจ้าหลุยส์ ฟิลิปเป้ แต่กษัตริย์ยังไม่ได้ปักใจเชื่อทีเดียวและเขาตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องนี้ไปๆมาๆก็บว่ามชาวฝรั่งเศสหลายคนที่ไปทำธุรกิจในเม็กซิโกแล้วได้รับความเสียหายจากสงครามรวมถึงเม็กซิโกยังค้างชำระหนี้ตั้งแต่สมัยทำสงครามกับพวกเท็กซัส ดังนั้น ในเมื่อปี ค.ศ.1836 ดังนั้นรัฐบาลฝรั่งเศสเรียกร้องค่าเสียหายเม็กซิโกสูงถึง 600,000 เปโซ มากกว่าเดิม 10 เท่าตัว!!

พระเจ้าหลุยส์ ฟิลิปเป้ที่ 1 กษัตริย์ฝรั่งเศสแห่งราชวงศ์ออร์เลอองส์

source : https://patr.io/Ny9TL

รัฐบาลเม็กซิโก ปฏิเสธ ที่จะจ่ายเงินดังกล่าว!! เพราะเห็นว่ามันไร้สาระ ฝรั่งเศสเลยตอบโต้โดยการส่งกองเรือมาปิดอ่าวเ็กซิโกตั้งแต่ คาบสมุทรยูคาทาน ถึงปากแม่น้ำ ริโอแกรนด์ แอนนาตาซิโอ บุสเมนเต้ (Anastasio Bustamante) ก็ยังคงปฎิเสธที่จะจ่ายค่าชดเชย เมื่อการเจรจาไร้ผล ฝรั่งเศสเลยเริ่มโจมตีในช่วงปลายปีค.ศ.1838 ฝรั่งเศสเริ่มระดมยิง ป้อม ซาน ฆวน เดอ ลัว (San Juan de Ulúa) ในวันที่ 27 พฤศจิกายน และปิดล้อม เวลาครุยซ์ (Veracurz) นี้รัฐบาลเม็กซิโก ประกาศสงครามกับฝรั่งเศสอย่างเ็นทางการและระดมทหารจำนวนมาก รวมถึงประกาศขับไล่ชาวฝรั่งเศสทั้งหมดออกจากเม็กซิโก อันโตนิโอ โลเปซ เดอ ซานตา อันนา ( Antonio López de Santa Anna) ประธานาธิบดีเม็กซิโก ซึ่งเคยบุกตีป้อมอลาโม ถูกเรียกจากการเกษียณและนำกองทัพเพื่อปกป้องเม็กซิโก!! 

ซานตา อันนา อดีตประธานาธิบดีเม็กซิโก

source : https://patr.io/aBQKP

ไม่นานนักป้อมก็แตก และ วันที่ 5 ธันวาคม นาวิกโยธิน ฝรั่งเศส 1,500 นายยกพลขึ้นบกภายใต้การนำของ เจ้าชาย ฟร๊องซัวส์ เดอ จัววีร์ (François de Joinville) บุกเวลาครุยซ์ กองทัพเม็กซิโกไม่อาจต้านทานการบุกอย่างหนักของนาวิกและการระดมยิงจากปืนเรือ ซาตา อันนา พยยามระดมพลใหม่แล้วเข้าตีโต้ แต่ด้วยอำนาจการยิงที่มากกว่า ซานตา อันนา โดนลูกกระสุนลูกปรายจากปืนใหญ่ยิงเข้าใส่ช่วงล่างของลำตัว ซานตาอันนา ได้รับบาดเจ็บหนักจนต้องตัดขาข้างหนึ่งทิ้ง!! ทัพเม็กซิโกต้องถอยออกจาก เวลาครุยซ์ ฝรั่งเศสยึดเมืองได้สำเร็จ 

ในที่สุดอังกฤษเสนอจะมาเป็นตัวกลางในการเจรจาให้ทั้ง 2 ฝ่าย โดยทูตอังกฤษในสหรัฐอเมริกา รชาร์ด เพเก้นแฮม (Richard Pakenham) ซึ่งเคยทำงานในเม็กซิโกจะเป็นคนไกล่เกลี่ย ท้ายสุดสนธิสัญญาสงบศึกลงนามในวันที่ 9 มีนาคม ค.ศ.1839 โดยเม็กซิโกจะยอมจ่ายเงินค่าเสียหาย 600,000 เปโซ รวมถึงค่าเสียหายของร้านเบเกอรี่ เจ้ากรรม และยังต้องรับรองความปลอดภัยชาวฝรั่งเศสในเม็กซิโก ฝรั่งเศสจึงยอมถอยทัพกลับในที่สุด

กองเรือฝรั่งเศสที่ เวลาครุยซ์

source : https://patr.io/JoMHa

หากจะว่าไปแล้วสงครามครั้งนี้นั้นก่อให้เกิดประโยชน์หลายฝ่ายทั้งฝรั่งเศสที่ได้เงินค่าเสียหายสมใจ เจ้าชาย กลับฝรั่งเศสไปในฐานะฮีโร่วีรบุรุษสงครามที่นำกำลงบุกเข้ายึด เลาครุยซ์ ด้วยตนเอง เจ้าของร้านเบเกอรี่ ที่เอาเงินไปสร้างเบเกอรี่ใหม่เขายังคงเปิดให้บริการในเม็กซิโก ส่วนคนที่ได้ประโยชน์สุดๆคงจะหนีไม่พ้น ซานตา อันนา หลังจากได้บัญชาการรบอย่างกล้าหาญเพื่อปกป้องและเสียขาไปข้างหนึ่ง (ขาของเขาได้รับการฝังอย่างสมเกียรติ) และทำให้เขาได้คะแนนความนิยมกลับมาอีกครั้ง (ในเวลาต่อมาเขาก็ทำรัฐประหาร) แต่ตัวเม็กซิโก ั้นก็บอบช้ำจาสงคราม ต้องบูรณะท่าเรือใหม่ทำให้เศรษฐกิจเม็กซิโกแย่ลงไปอีก ท้ายสุดเม็กซิโกนั้นจ่ายค่าเสียหายดังกล่าวไม่หมดทำให้ฝรั่งเศสใช้มันเป็นข้ออ้างในการแทรกแซงเม็กซิโกครั้งที่ 2 ในช่วง 1860’s นั้นเอง

ขาของ ซานตา อันนา ที่ได้ทำพิธีศพอย่างมเกียรติ

source : https://patr.io/0uBwk