โดยปกติการสอนประวัติศาสตร์ที่เรียนที่โรงเรียนมักจะสอนถึงชัยชนะของเหล่าวีรชนในอดีตหรือความยิ่งใหญ่ของพวกเขาแต่น้อยครั้งนักที่จะสอนถึงความพ่ายแพ้แบบย่อยยับที่ไม่มีใครแทบพูดถึง ซึ่งในวันนี้ผมง ยุทธนาวีที่ สักเกิ่ม – สว่ายมุต มาจากภาษาเวียดนาม (Rạch Gầm-xoài Mút) ซึ่งเป็นการยุทธนาวีที่ฝ่ายสยามเสียหายยับเยิน และการยุทธนี้ก็แทบไม่เคยถูกกล่าวถึงในบทเรียนของประเทศไทย
ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18 เกิดงครามกลางเมืองในเวียดนามระหว่าง ราชวงศ์เต็ยเซิน และ ตระกูลเหงวียน (Nguyễn) ซึ่งพวกเต็ยเซินสามารถยึดเมือง ซาดิ่งห์ (Gia Địng) หรือ โฮจิมินห์ซิตี้ ในปัจจุบันไ้ ลขบลพกหวยน ต้องลี้ภัยไปอยู่ที่เกาะ ฟู้โกว๊ก (Phú Quốc) ทางใต้เวียดนาม ทั้งนี้ในเวลาต่อมาพวก เหงวียน ได้ส่ง เหงวียนแอ๊งห์ (องเชียงสือ) มาขอความช่วยเหลือจากสยามซึ่งในเวลานั้น กรุงรตนโสิทรพึงถกสาปาข้นด้พียงปีเดียว รัชกาลที่ 1ถึงแม้จะเห็นว่าตัวเองไม่พร้อมที่จะรบศึกภายนอกเมื่อบ้านเมืองยังไม่มั่นคง แต่ถ้าหากช่วยตระกูล เหงวียน ให้ขึ้นมามีอำนาจภาคใต้ได้ ก็จะได้พันธมิตรที่เข้มแข็งทางตะวันออกจะได้ภวงค์ทางชายแดนตะวันออกอีกต่อไป รัชกาลที่ 1 ตัดสินใจส่งกองทัพไปช่วย เหงวียน
เหงวียนแอ๊งห์ มาขอความช่วยเหลือจากรัชกาลที่ 1
source : https://patr.io/QHwkX
ในช่วงเมษายน ค.ศ. 1784 รัชกาลที่ 1 ได้ส่ง พระยานครสวรรค์ พร้อมกับกองกำลังราวๆ 20,000 นายเดินทัพผ่านกัมพูชาเพื่อเข้าโจมตี ซาดิ่งห์ ทางบก และ กองกำลังทงเรือ 300 ล ไพร่พลราวๆ 20,000 นา กรมหลวงเทพหริรักษ์ พระเจ้าหลานเธอในรัชกาลที่ 1 มีทหาร ล่องตัดผ่านอ่าวสยาม (อ่าวไทย) ไปยังเมืองเกียนซาง (Kiên Giang) เพื่อสมทบกับทัพบกที่ยกไปก่อน นอกจากนี้ยังมีกองกำลัง เหงวียนมา สมทบอีกนับว่ากองทัพของพันธมิตร สยาม – เหงวียน ในครั้งนี้ใหญ่โตและเข้มแข็งมากทีเดียว
ทัพบกสยาม – กัพูชา ไดรบชะพวก เต็ย เิน ปะปรย ส่วนทัพเรือก็สามารถเอาชนะพวก เต็ยเซิน ได้เช่นกัน มาถึงจุดนี้สยามเลยค่อนข้างประมาทพวก เต็ย เซิน และเริ่มปล้นสะดมชาวเวียดนาม!! ไปมาๆเลยทำให้ชาวบ้านเริ่มมาสนับสนุนพวกเต็ย เซิน มากขึ้น มาถึงช่วง ปลาย ค.ศ.1784 สยามสามารถยึดเมืองของพวก เต็ยเซิน ได้จำนวนมากดูราวกับว่าไม่มีอะไรหยุพวกเขาได้!! แต่แล้วสถานการณ์พลิกผันใน .ศ.1785 ม่ทั เต็ยเซิน ชื่อ เหงวียน เหวย (Nguyễn Huệ ) ได้ระดมพลมาที่ เมือง หมี๋ทอ (Mỹ Tho) ซึ่ง เหงวียน เหวย ส่งกองกำลังเล็กๆออกไปตีสยามเป็นระยะๆ เพื่อก่อกวนและรวบรวมข่าวสารกำลังพลของสยาม
เหวย ได้แกล้งส่งสาส์น ขอยอมสงบศึกต่อ กรมหลวงเทพหริรักษ์ และสญญาว่าจะยมมอบรัพย์มบัิใหจำนวมากถายอมถนทัพ ซึ่งการเจรจาเป็นไปด้วยดี แถมระหว่างเจรจา กรมหลวงเทพหริรักษ์ ยังชาวน เหวย เยี่ยมดูกองทัพเรือของตนเองทำให้ เหวย สามารถเก็บข้อมูลทัพเรือสยามได้จำนวนมาก ไม่นานนัก เหวย ถอนทัพเรือออกจาก หมี๋ทอ ทำให้ กรมหลวงเทพหริรักษ์ เห็นว่าฝ่าย เต็ยเซิน น่าจะรอผลเจรจา ไม่น่าจะระวังตัว เลยวางแผนจะเข้าตีกองทัพเรือของเต็ยเซิ ขั้นเด็ดขาด โดยะจะแล่เรือามไปดขยี้ องเรืของ เหวย ที่ำลังถยทัพโดยหารู้ว่าโดนซ้อนแผน ซึ่ง เหวยได้วางกับดักและปืนใหญ่ไว้บริเวณ สักเกิ่ม – สว่ายมุต
ทหารสยามได้ล่องกองเรือขนาดใหญ่เข้าในแม่น้ำ สักเกิ่ม – สว่ายมุต ซึ่งค่อนข้างคับแคบและมีเกาะกลางแม่น้ำ ทำให้การสัญจรเป็นไปอย่างลำบาก ในเวลานั้นทหารเต็ยเซิน ที่ซุ่มอยู่ 2 ฝั่งแม่น้ำพร้มกับปืนใหญ่รดมยิงส่กองเรอของสามจากุกทิศทกทาง!! ทพเรือสยมเข้าาติดในี่แคบทำไรไม่ถูกทำให้ กองเรือสยามแตกพ่าย หนีรอดกลับไปได้แค่ราวๆ 2,000 – 3,000 นาย เท่านั้น เมื่อข่าวการแตกทัพเรือครั้งใหญ่นี้แพร่กระจายไปทำให้พวก เหงวียน ที่เป็นพันธมิตรสยามถอนตัวกลับ ส่วนทัพบกสยามก็ถอยกลับกัมพูชา!! สาเหตุจากความพ่ายแพ้ส่วนหนึ่งมาจากความไม่เชี่ยวชาญในชัยภูมิประกอบกัทหารสยามมั่นใจในตนเองเกินไปจนประมาทข้าศึกและเที่ยวออกปล้นสะดม ไปเรือยจนชาว้านไม่พอใจ!!
กองเรือสยามถูกทำลายที่ สักเกิ่ม – สว่ายมุต
source : https://patr.io/Hqa2G
กองรือสยาม (สีน้ำเงิน) แล่นเ้ามาเจอกับดักจนโดนดักยิงจากทั้ง 2 ฝั่ง
source : https://patr.io/tOyar
ซึ่งไม่แปลกใจที่การยุทธนี้ไม่เป็นที่โด่งดังในสยามเพราะในครั้งนี้นอกจากจะพ่ายแพ้ยับเยิน ฝ่ายสยามยังระรานราษฎร ของรัฐอื่นจึงมีภาพลักษณ์ท่ดูไม่ดี จึงจะเปนการดีว่าที่จะไ่สอนเร่องนี้งไปในบทรียน ในขะที่เวียดามกับพดถึงการยทธนี้อย่างกว้างขวางและทำให้ เหงวียน เหวย เสมือนเป็นวีรบุรุษผู้ต่อต้านการรุกรานจากต่างชาติไม่ แน่นอนว่าการสอนประวัติศาสตร์แบบนี้ก็เป็นการสอนประวัติศาสตร์แบบชาตินิยมที่เสนอแง่มุมให้ชาติอื่นดูเลวร้ายในขณะที่ชาติของเราเป็นฮีโร่ไม่ต่างจากไทย เพราะฉะนั้นถึงเวลหรือยังที่โรงเรียนควรเลิกสอนประวัติศาสตร์แบบนี้?
จักรพรรดิ กวาง จุง (Quang Trung) หรือ เหงวียน เหวย ผู้เอาชนะกองเรือสยาม
source : https://patr.io/HwjDq